
ตุ๊กแกเสือดาว หน้าตาเหมือนกับจิ้งจกบ้าน แต่เหมือนกับตุ๊กแกบ้านหรือไม่? หลายคนที่สนใจสัตว์เลี้ยง Exotic อาจกำลังสับสนระหว่าง ตุ๊กแกลายเสือดาว กับเจ้าหางอ้วน ซึ่งเป็นสัตว์ที่ไม่เหมือนกับตุ๊กแกทั่วไป แต่จะแตกต่างกันอย่างไร น่ารักน่าจับขนาดไหน ถึงกลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยม
ตุ๊กแกเสือดาว (Leopard Gecko) หรือเรียกว่า ตุ๊กแกลายเสือดาว สายพันธุ์ Eublepharis Macularius สัตว์เลื้อยคลาน ชนิดอาศัยอยู่ตามพื้นดิน โดยมีถิ่นฐานกำเนิดมาจาก ประเทศอัฟกานิสถาน ปากีสถาน อิหร่าน เนปาล และอินเดีย สามารถพบเจอได้ใน ทะเลทราย หรือทุ่งหญ้าแห้งแล้ง ที่เต็มไปด้วยหิน
สายพันธุ์ของตุ๊กแกลายเสือดาว ถูกค้นพบและอธิบายเป็นครั้งแรก เมื่อปี ค.ศ. 1854 ประกอบด้วย 5 ชนิดย่อย คือ Afghanicus, Fasciolatus, Macularius, Montanus และ Smithi [1] ทั้งยังมีอายุขัย โดยประมาณ 6 – 10 ปี ตามแหล่งธรรมชาติ และมีอายุขัยยาวนานได้ถึง 20 ปี สำหรับการเป็นสัตว์เลี้ยง
ลักษณะทางกายภาพ จะต่างจากตุ๊กแกบ้านทั่วไป มองดูแล้วอาจคล้ายกับ จิ้งจกมากกว่า โดยเพศผู้จะมีขนาดของศีรษะ ใหญ่กว่าเพศเมีย ซึ่งขนาดลำตัวแรกเกิด ประมาณ 3 – 4 นิ้ว เมื่อเข้าสู่ช่วงโตเต็มวัย ตัวผู้จะมีขนาดลำตัว 8 – 10 นิ้ว โดยตัวเมียมีขนาด 7 – 8 นิ้ว และแต่ละสายพันธุ์ มีขนาด สีสัน ลวดลาย แตกต่างกันไป
สำหรับใบหน้า จะมีขอบตานูนหนารอบดวงตา จมูกเรียวเหมือนจิ้งจก หรือจิ้งเหลน ปากจะค่อนข้างกว้าง ดูคล้ายว่ากำลังยิ้มอยู่ตลอดเวลา ทั้งยังมี 4 ขา กับ 4 เท้า และ 5 นิ้ว โดยแยกออกจากกัน แบบไม่ติดเป็นพังผืด ส่วนหาง จะมีลักษณะอวบอ้วนเล็กน้อย เพื่อใช้สะสมสารอาหาร และตรวจสอบความแข็งแรงสมบูรณ์
เปรียบเทียบความแตกต่างของ “ตุ๊กแกลายเสือดาว กับตุ๊กแกหางอ้วน” โดยสายพันธุ์ลายเสือดาว มีลำตัวเรียวยาวกว่า ซึ่งมีหางอวบใช้เก็บไขมันเช่นกัน แต่จะเล็กกว่านิดหน่อย ดวงตาเหมือนกับจระเข้ ส่วนสายพันธุ์หางอ้วน ลำตัวจะมีความอ้วนป้อม หางค่อนข้างกลมสั้นกว่า แต่ที่แน่นอนคือ ยิ้มหวานเหมือนกัน
นิสัยของตุ๊กแก เสือดาวสามารถเลี้ยงให้เชื่อง และจดจำเจ้าของได้ดี เพราะจะค่อนข้างมีอัธยาศัยดีกับคน บางตัวชอบมองหน้า มองมือ เลียมือ หรือการนอนบนมือจนหลับ โดยนิสัยตามธรรมชาติ ส่วนใหญ่ชอบเดินสำรวจพื้นที่บริเวณจุดพักอาศัย หรือเดินสำรวจพื้นที่อื่น ๆ รอบตัว เพราะเป็นสัตว์ขี้สงสัยอย่างมาก
พฤติกรรมทั่วไป จะชอบหลบตัวอยู่ตามซอกหิน ใต้โพรงดิน ซึ่งเป็นสัตว์ที่ไม่ค่อยชอบ อุณหภูมิร้อนจัด โดยจะชอบออกไปเดินเที่ยว เดินสำรวจในตอนกลางวัน ภายใต้ร่มเงาแทน และออกหากินในยามพลบค่ำ เพราะมีอุณหภูมิที่เย็นลง ซึ่งจะกักเก็บความร้อนไว้ใช้ ในการนอนหลับ เป็นเวลาหลายชั่วโมง
คู่มือการเลี้ยงตุ๊กแก สายพันธุ์ต่างประเทศ สำหรับมือใหม่อยากเลี้ยงตุ๊กแก แน่นอนว่าค่อนข้างเลี้ยงง่าย เหมือนกับสัตว์เลื้อยคลานทั่วไป เพียงแค่ต้องการที่อยู่อาศัยเหมาะสม อาหารเพียงพอต่อการเติบโต และควรศึกษาเพิ่มเติม เกี่ยวกับแต่ละสายพันธุ์ เลี้ยงอย่างไรให้อยู่รอด ต้องศึกษาอย่างละเอียด
สถานที่พักอาศัย ของสายพันธุ์ลายเสือดาว ควรเป็นตู้กระจก หรือตู้พลาสติกขนาด 10 – 20 แกลลอน / 1 ตัว โดยมีฝาปิดด้านบนเป็นตาข่าย ส่วนภายในรองด้วย แผ่นกระเบื้องหินเรียบ หรือพรมเฉพาะสัตว์เลื้อยคลาน สำหรับการเดินสำรวจ และใช้ชีวิตอย่างสบาย ซึ่งห้ามใช้ทราย หรือขี้เลื่อย นำมาปูพื้นเด็ดขาด
การควบคุมอุณหภูมิภายในตู้ ตอนกลางวันอุณหภูมิความร้อน ประมาณ 23 – 26 องศาเซลเซียส ส่วนช่วงกลางคืน อุณหภูมิความเย็น ประมาณไม่ต่ำกว่า 21 องศาเซลเซียส และควรมีจุดอาบแดด ปรับอุณหภูมิในบริเวณ 29 – 32 องศาเซลเซียส สำหรับการกักเก็บความร้อน และใช้ปรับตัวในตอนนอนหลับ
อาหารมื้อหลัก เน้นเป็นอาหารมีชีวิต มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ประเภทแมลงขนาดเล็ก แมลงสาบดูเบีย จิ้งหรีด (ประมาณ 7 – 10 ตัว) หนอนนก และหนอนผีเสื้อ รวมถึงการเพิ่มสารอาหาร ด้วยผงแคลเซียม แบบไม่มีวิตามิน D3 ซึ่งตุ๊กแกจะต้องการอาหาร เพียงแค่ 2 – 3 ครั้ง / สัปดาห์ หรือวันเว้นวันเท่านั้น [2]
สำหรับราคาการซื้อขาย จะถูกกำหนดตามสายพันธุ์ เพศ และสีสัน สามารถหาซื้อได้ตาม ร้านจำหน่ายสัตว์เลี้ยงแปลก หรือเว็บฟาร์มเพาะพันธุ์ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยยกตัวอย่าง ราคาจากเว็บต่างประเทศ ของสายพันธุ์ลายเสือดาว ตามรายละเอียดดังนี้
ที่มา: Leopard Geckos [3]
ตุ๊กแกเสือดาว สัตว์เลี้ยงแปลก ความนิยมพอกับ ตุ๊กแกหางอ้วน เสน่ห์ของตุ๊กแก Exotic อยู่ที่ความน่ารักเป็นมิตร และรอยยิ้มหวาน ที่เป็นเอกลักษณ์ ตลอดจนการเลี้ยงง่าย สามารถเลี้ยงให้เชื่อง สนิทกับเจ้าของได้เป็นอย่างดี อีกหนึ่งตัวเลือกสัตว์เลี้ยงเพื่อนรัก ที่อยู่กับคุณได้ยาวนานถึง 20 ปี