เปิดโลก นกกระสา เจ้าแห่งหนองน้ำหลายทวีป

นกกระสา

นกกระสา นกป่าขายาว และคอยาว ที่หลายคนมักเข้าใจผิด คิดว่าเป็นนกกระยาง หนึ่งในนกออกหากินในแหล่งน้ำเป็นหลัก โดยเฉพาะภูมิภาคอากาศอบอุ่น หรือเขตร้อน พาทุกคนมาเรียนรู้ชีวิต และทำความเข้าใจกันให้มากขึ้น เพื่อจะได้ไม่สับสน กับนกสายพันธุ์ใกล้เคียงอีกด้วย

ทำความเข้าใจชีวิตโดดเดี่ยวของ นกกระสา

นกกระสา (Heron) นกน้ำจืด และ นกชายฝั่ง ขนาดกลาง จัดอยู่ในวงศ์ Ardeidae บางชนิดถูกเรียกว่า นกกระยาง หรือ นกกระสาปากกว้าง แหล่งอาศัยกระจายอยู่ทั่วโลก ยกเว้นทวีปแอนตาร์กติกา ส่วนใหญ่มักพบในเขตร้อน ตามแหล่งน้ำ พื้นที่ลุ่ม ทะเลสาบ แม่น้ำ หนองบึง และทะเล

สำหรับชื่อของชนิด ได้รับการอธิบายครั้งแรก ประมาณ ปี ค.ศ. 1300 มาจากอุปนิสัย และการถูกขับไล่ ต่อมาภายหลังถูกดัดแปลง ให้มีความหมายเป็น เลื่อยมือ ซึ่งเกิดจากลักษณะทางกายภาพ และการใช้ชีวิตตามธรรมชาติ ในปัจจุบัน ประกอบด้วย 72 ชนิด และ 18 สกุล ข้อมูลจาก IOC เดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2023 [1]

ลักษณะโดยรวม นกกระสา

นกขนาดกลาง – ขนาดใหญ่ มีลักษณะปากยาวกว้างและหนา คอยาว ขายาวแข็งแรง ปกติมีความสูง ประมาณ 114 – 115 เซนติเมตร โดยนกกระสาตัวเล็กที่สุด คือ นกกระสาแคระ มีความยาวลำตัว 25 – 30 เซนติเมตร สำหรับนกกระสาตัวใหญ่ที่สุด คือ นกกระสาโกไลแอธ สามารถมีความสูงได้ถึง 152 เซนติเมตร

ความพิเศษทางกายภาพ พวกมันสามารถหดคอได้ พับเป็นรูปตัว S เพราะมีกระดูกสันหลังส่วนคอ 20 – 21 ชิ้น จะทำการหดขณะบิน แตกต่างจากนกคอยาวทั่วไป ส่วนมากแล้ว ลำตัวมีสีเหลือง สีดำ และสีน้ำตาล ปีกกว้าง มีขนหลัก 10 – 11 เส้น ลักษณะนุ่ม เป็นสีน้ำเงิน สีน้ำตาล สีดำ หรือสีขาว สำหรับการแยกเพศด้วย

อาหารและการผสมพันธุ์

อาหารหลักของนก กระสา เป็นสัตว์ประเภทกินเนื้อ โดยการหาเหยื่อตามแหล่งน้ำ ที่มีความหลากหลาย อย่างเช่น ปลา ปู กุ้ง หอย แมลงน้ำ รวมถึงสัตว์เลื้อยคลาน และสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก หรือบางสายพันธุ์ สามารถกินเหยื่อขนาดใหญ่ได้ อย่างเช่น นก ไข่นก และสัตว์ฟันแทะ เป็นต้น

วิธีการล่าเหยื่อ พวกมันจะนั่งนิ่ง ๆ หรือยืนรอในน้ำตื้น เพื่อรอให้เหยื่อเข้ามาในระยะใกล้ แล้วใช้จะงอยปากแหลมคม แทงเข้าที่เหยื่อทันที โดยมีโอกาสในการหาอาหาร จากการติดตาม สัตว์กินหญ้าตัวใหญ่ ซึ่งมีงานศึกษาวิจัยพบว่า อัตราความสำเร็จ ของการจับเหยื่อ จะเพิ่มขึ้น 3.6 เท่า หากเทียบกับการหากินโดยลำพัง

การผสมพันธุ์นกกระสา ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง เป็นสัตว์มีคู่ครองเดียว ทำรังตามฤดูกาล โดยนกกระสาเขตร้อน จะผสมพันธุ์ตรงกับช่วงฤดูฝน หรือตลอดทั้งปี ซึ่งแต่ละสายพันธุ์ มีการผสมพันธุ์แตกต่างกันไป สำหรับการวางไข่ ประมาณ 3 – 7 ฟอง และมีอายุขัย 20 – 35 ปี

ข้อมูลสำคัญและประชากร นกกระสา

นกกระสา

นกป่าประเภท นกอพยพต่างถิ่น และบางสายพันธุ์เป็นนกประจำถิ่น อย่างนกกระสาใหญ่ (Great-Billed Heron) ของทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และออสเตรเลีย หรือนกกระสาสีเทา (Grey Heron) ของประเทศญี่ปุ่น โดยส่วนมากอาศัยอยู่ทั่วโลก เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความกังวลน้อย ต่อการถูกคุกคาม และการสูญพันธุ์

รวมข้อเท็จจริงของนก กระสา

รวบรวมข้อเท็จจริงต่าง ๆ เกี่ยวกับนกกระสา สัตว์ปีกที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ด้วยขาอันเรียวยาว และการบินอย่างสง่างาม บริเวณระบบนิเวศชุ่มน้ำทั่วทุกทวีป พามาเจาะลึกชีวิตนกกระสา ดังต่อไปนี้

  • นักล่าปลามืออาชีพ : การล่าเหยื่อแบบเฉพาะตัว โดยการสั่นปาก เพื่อเลียนแบบการเคลื่อนไหวของแมลง ซึ่งใช้ความอดทนสูง ในการเฝ้ารอเหยื่อ และใช้ทักษะความแม่นยำอย่างมาก
  • ปีกกว้างใหญ่ : นกกระสามีปีกที่กว้างและใหญ่ ได้มากที่สุดถึง 182 เซนติเมตร สามารถเดินในน้ำตื้น เกาะบนกิ่งไม้ ทั้งยังสามารถบินได้ ร่อนไปตามผิวน้ำ เพื่อค้นหาเหยื่อจากมุมสูง
  • ทำการแสดงเพื่อหาคู่ : ในช่วงฤดูกาลผสมพันธุ์ นกกระสาเพศผู้ จะแสดงพฤติกรรมพิเศษ ในการดึงดูดเพศเมีย โดยการยืดคอไปมา กระพือปีกสวยงาม และการเต้นรำ
  • ขนเฉพาะสำหรับทำความสะอาด : พวกมันมีโครงสร้างขนพิเศษ ทำหน้าที่เป็นแหล่งกระจายน้ำมัน ไปทั่วขนและร่างกาย เพื่อช่วยให้ขนสะอาด สามารถกันน้ำได้ และอยู่ในสภาพที่ดีต่อการบิน
  • ระบบย่อยอาหารยาว : ค่อนข้างมีความยาวและซับซ้อน พวกมันจึงสกัดสารอาหาร จากการกินเหยื่อหลายจำพวก ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยให้อยู่รอดได้ แม้แหล่งอาหารมีจำกัด
  • ปรับตัวได้ดีทุกสภาพแวดล้อม : มีความสามารถการปรับตัวได้สูง ของทุกสายพันธุ์ ตั้งแต่ป่าฝนเขตร้อน – พื้นที่ชุ่มน้ำมีน้ำแข็ง ซึ่งเจริญเติบโตได้ ในสภาพแวดล้อมหลากหลาย

ที่มา: 15 Facts About Heron [2]

รายงานประชากร นกกระสา

การรายงานประชากร ของนกกระสาทั่วโลก ยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัด แต่โดยรวมแล้ว ค่อนข้างมีประชากรลดลง โดยสายพันธุ์นกกระสาหายาก คือ “นกกระสาขาว” หลงเหลือประมาณ 6,700 ตัวทั่วโลก (ข้อมูลอ้างอิงจากปี 2019) และถูกกำหนดให้เป็น สิ่งมีชีวิตทางธรรมชาติ ที่ควรอนุรักษ์ของประเทศญี่ปุ่น

ครั้งหนึ่งพวกมัน เคยสูญพันธุ์ไปแล้วในญี่ปุ่น เนื่องจากมีการล่าสัตว์มากเกินไป รวมถึงเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้ป่าถูกทำลาย และขาดแคลนแหล่งอาหาร โดยในปัจจุบัน สามารถขยายพันธุ์ และปล่อยคืนสู่ป่า รายงานว่ามีนกกระสา 28 ตัว ออกลูกเพิ่มขึ้นในปี 2022 ซึ่งได้รับการคุ้มครอง และมีที่อยู่อาศัยเหมาะสม [3]

สรุป นกกระสา “Heron”

นกกระสา นกป่าคอยาว ขายาว หลากหลายสายพันธุ์ รูปร่างเป็นเอกลักษณ์ แหล่งอาศัยอยู่ในหลายทวีปทั่วโลก หนึ่งในผู้ชำนาญด้านการล่าเหยื่อ จับปลาด้วยปากแหลมคม ทักษะความอดทนเป็นอย่างสูง และสามารถปรับตัว เข้ากับระบบนิเวศได้อย่างดี

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง