รวมสาระ นกกีวี นกหายากในป่านิวซีแลนด์

นกกีวี

นกกีวี นกจำพวกหนึ่งที่ดำรงชีวิตตามพื้นดิน ในป่าแห้งแล้งของนิวซีแลนด์ มีเอกลักษณ์โดดเด่น แตกต่างจากนกทั่วไปอย่างชัดเจน โดยมีเส้นขนคล้ายกับขนเม่น ทั้งยังชอบหากินตอนกลางคืน พวกมันมีประชากรค่อนข้างน้อย และพบเห็นได้ยากมาก แม้กระทั่งคนนิวซีแลนด์ ยังไม่ค่อยได้พบเจอเลย

ทำความรู้จัก นกกีวี นกพื้นเมืองที่มีอยู่จริง

นกกีวี (Kiwi Bird) นกขนาดเล็ก คล้ายกับไก่บ้าน อยู่ในชนิดของ สัตว์ปีกบินไม่ได้ โดยจัดอยู่ในวงศ์ Apterygidae แหล่งอาศัยเฉพาะในประเทศนิวซีแลนด์ ค้นพบหลักฐาน อาจมีความใกล้ชิดกับนกช้าง และนกแรไทต์ นกชนิดที่สูญพันธุ์ไปแล้วหลายล้านปี [1]

จำแนกสายพันธุ์ย่อยของ นกกีวี

สายพันธุ์ย่อยของนกกีวี ประกอบด้วย 5 สายพันธุ์ ตามรายชื่อดังต่อไปนี้

  • นกกีวีจุดใหญ่ : หรือเรียกว่า นกกีวีสีเทา พบมากในนิวซีแลนด์ มีขนาดตัวใหญ่มากที่สุด โดยมีความสูงราว 45 เซนติเมตร และน้ำหนัก 2.4 – 3.3 กิโลกรัม ขนสีเทาน้ำตาล มีแถบสีน้ำตาลอ่อนกว่า วางไข่เพียง 1 – 2 ฟอง / ปี คาดว่ามีประชากร มากกว่า 20,000 ตัว
  • นกกีวีจุดเล็ก : มักถูกเรียกว่า นกกีวีสีเทาตัวเล็ก พบอยู่ในเกาะคาปิติ ของนิวซีแลนด์ มีขนาดตัวค่อนข้างเล็ก เทียบเท่ากับไก่แจ้ โดยมีความสูงเพียง 25 เซนติเมตร และมีน้ำหนัก 1.3 กิโลกรัม อัตราการวางไข่เพียง 1 ฟอง พบประชากรค่อนข้างน้อย ประมาณ 1,350 ตัว
  • นกกีวีโอการิโต : นกกีวีสายพันธุ์ใหม่ ถูกระบุตั้งแต่ปี 1994 แหล่งอาศัยในเกาะใต้ เกาะขนาดใหญ่ของนิวซีแลนด์ มีขนาดตัวเล็ก โดยมีขนสีเทาอ่อน หรือขนสีขาวบนใบหน้า สามารถวางไข่ได้มาก 1 – 3 ฟอง / ฤดูกาล
  • นกกีวีสีน้ำตาลใต้ : นกกีวีสายพันธุ์ทั่วไป อาศัยอยู่ในเกาะใต้ ขนาดตัวค่อนข้างใหญ่ เกือบเท่ากับสายพันธุ์กีวีลายจุดใหญ่ โดยมีขนสีน้ำตาลอ่อนกว่า สำรวจพบมีประชากรค่อนข้างเยอะ
  • นกกีวีสีน้ำตาลเกาะเหนือ : สายพันธุ์ที่ปรับตัวต่อสภาพแวดล้อมได้ดี ถิ่นอาศัยอยู่ในเกาะเหนือ ของประเทศนิวซีแลนด์ โดยมีความสูง 40 เซนติเมตร และน้ำหนักตัว 2.8 กิโลกรัม ขนสีน้ำตาลแดง ลักษณะเป็นริ้ว ขนแหลม สามารถวางไข่ได้ 2 ฟอง มีประชากรมากที่สุด ประมาณ 35,000 ตัว

การทำกิจกรรมและอาหาร

นกกีวีอาศัยอยู่ในป่าแห้งแล้ง โดยเป็น สัตว์เขตร้อน ที่สามารถปรับตัวได้ค่อนข้างดี กับสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ทั้งยังมีประสาทการดมกลิ่นที่ดี สามารถรับรู้แรงสั่นสะเทือน และความดันได้ดีเยี่ยม เพราะพวกมันหาอาหารกินตามพื้นดิน ไม่ได้ปีนป่ายบนต้นไม้ เหมือนกับนกทั่วไป

อาหารส่วนมาก จะเลือกกินเป็น แมลงตัวเล็ก หนอน และเมล็ดพืช แต่สำหรับนกบางสายพันธุ์อาจกิน ผลไม้ตระกูลเบอร์รี ปลาไหล และสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ซึ่งพวกมันมีปลายปากที่แหลมยาว สามารถกินเหยื่อที่อาศัยอยู่ใต้ดิน ในความลึกถึง 15 เซนติเมตร แบบไม่จำเป็นต้องมองเห็นเหยื่อ

นกกีวี สัตว์ประจำชาตินิวซีแลนด์

นกกีวี

แนะนำเกร็ดความรู้เพิ่มเติมนกกีวี สัตว์ประจำชาติ ของประเทศนิวซีแลนด์ หนึ่งในนกที่บินไม่ได้ พบเฉพาะในนิวซีแลนด์เท่านั้น ซึ่งถูกจัดว่าเป็นสัญลักษณ์ของชาติ ตั้งแต่ช่วงสงครามโลก ครั้งที่ 1 โดยชาวพื้นเมืองของนิวซีแลนด์ มักเรียกตัวเองว่า “ชาวกีวี” มาจนถึงปัจจุบันเช่นกัน

รวมข้อเท็จจริงสนุก ๆ ของนก กีวี

แม้ว่านกกีวีจะเป็นสัตว์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น แต่ก็เป็นชนิดที่พบเจอได้ยาก เนื่องจากว่าพวกมันมีนิสัยขี้อาย และชอบออกหากินเวลากลางคืน โดยชาวนิวซีแลนด์ส่วนใหญ่ ก็ไม่ค่อยพบเห็นในป่าทั่วไป เราจะพามาดูหลากหลายข้อเท็จจริง ที่อาจไม่เคยรับรู้มาก่อน ดังต่อไปนี้

  • นกกีวีมีขนเหมือนเม่นเต็มตัว : พวกมันมีขนทั้งตัว มาตั้งแต่แรกเกิด (เป็นเรื่องไม่ปกติของนก) ทั้งนี้แม่นกก็ไม่จำเป็นต้องป้อนอาหาร เพราะลูกนกเกิดมาพร้อมถุงไข่แดง สามารถรับสารอาหารได้เองในช่วง 10 วันแรก หลังจากนั้นลูกนก จะสามารถดูแลตัวเองได้ และหาอาหารกินเองในอาณาเขต
  • ลูกนกโอกาสรอดน้อยมาก : ลูกนกกีวีที่เกิดในป่า จะมีโอกาสตายค่อนข้างสูง ประมาณ 90% ของทุกเดือน และอีกประมาณ 70% จะถูกฆ่าจากสัตว์นักล่า อย่างเช่น แมวป่า อีเห็น ซึ่งจากผลสำรวจพบว่า ประชากรนกกีวี จะลดลง 3% / ปี จึงต้องมีพื้นที่คุ้มครอง มากกว่า 230,000 เฮกตาร์
  • ประชากรนกกีวีเพิ่มขึ้น : ความสำเร็จจากการอนุรักษ์ ปัจจุบันทำให้มีจำนวนนกกีวี มากกว่า 1,200 ตัว ภายในเกาะคาปิติ ของประเทศนิวซีแลนด์ จากเดิมที่มีเพียงแค่ 5 ตัว
  • นกกีวีมีไข่ขนาดใหญ่ : ไข่ของนกกีวีมีขนาดใหญ่ เป็นอันดับ 2 เมื่อเทียบกับไข่ของนกชนิดอื่น โดยเฉลี่ยประมาณ 15% ของน้ำหนักตัว ซึ่งไข่ของ นกกระจอกเทศ ก็มีเพียงแค่ 2% ของน้ำหนักเท่านั้น
  • อายุขัยยาวนาน : การอยู่อาศัยในป่าธรรมชาติ จะมีอายุขัยเฉลี่ย 30 ปี แต่ถ้าหากได้รับการรับเลี้ยง จะสามารถมีอายุได้นานถึง 60 ปี

ที่มา: Five Surprising Kiwi Facts [2]

สำรวจวิวัฒนาการ นกกีวี

วิวัฒนาการของนกกีวีในปัจจุบัน มีแนวโน้มว่าอาจเป็นสัตว์ชนิดที่มี วิวัฒนาการถดถอยลง โดยทีมนักวิทยาศาสตร์นานาชาติ สำรวจพบว่าประชากร ของนกกีวีจำนวนมาก เริ่มสูญเสียการมองเห็น (ตาบอด) หลังจากที่พวกมัน ออกหากินในช่วงเวลากลางคืนเป็นประจำ

โดยนกกีวีที่หากินตามลำพัง แบบไม่รวมกลุ่ม จะมีปัญหาทางสายตา บางตัวถึงขั้นตาบอดสนิท แต่สภาพร่างกายแข็งแรงปกติ และดูเหมือนว่า ความบกพร่องทางสายตา ในการมองเห็นตอนกลางคืน จะไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตแต่อย่างใด ซึ่งปกติแล้วนกที่ตาบอด จะไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้

เรียกปรากฏการณ์แบบนี้ว่า “วิวัฒนาการแบบถดถอย” (Regressive Evolution) ในชนิดของนกกีวีหากินกลางคืน ซึ่งยังพบลักษณะแบบนี้ใน ตัวตุ่น และปลาในถ้ำมืดอีกด้วย สาเหตุนั้นมาจาก ยีนทางพันธุกรรม ที่ช่วยกระตุ้นประสาทการรับกลิ่นได้ดี แต่ส่งผลกระทบ ต่อประสาทการมองเห็น เสื่อมลงเช่นกัน [3]

สรุป นกกีวี “Kiwi Bird”

นกกีวี นกพื้นเมืองขนาดเล็ก จำพวกนกบินไม่ได้ กำเนิดและอาศัยเฉพาะในนิวซีแลนด์ ประกอบด้วย 5 สายพันธุ์ พบในป่าแห้งแล้ง และสภาพแวดล้อมหลากหลาย นกที่มีประสาทสัมผัสการดมกลิ่นดีเยี่ยม แต่มีวิวัฒนาการถดถอย เกิดความบกพร่องทางการมองเห็น ค่อนข้างมีประชากรน้อย พบเห็นได้ยากในปัจจุบัน

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง