ข้อมูลนกป่า นกขุนทอง เจ้านกพูดได้เสียงแจ๋ว

นกขุนทอง

นกขุนทอง เคยได้ยินเสียงทักทายปริศนา จากบ้านของใครสักคนหรือไม่? หลายคนอาจตกใจกลัว แต่นั่นคือเสียงของเจ้าขุนทอง นกตัวเล็กสีดำปากเหลือง ที่เคยเห็นกันในรายการเด็กสมัยก่อน ชอบทักทายคนในบ้านหรือเจ้าของ ด้วยภาษาไทยที่ถูกสอนมา ก่อนจะรับมาเลี้ยง เจ้าของควรรู้เรื่องอะไรบ้างมาดู

ทำความรู้จัก นกขุนทอง นกสวยงามของเอเชีย

นกขุนทอง (Hill Myna) นกขนาดเล็ก จัดอยู่ในวงศ์ Sturnidae ของนกเอี้ยงและนกกิ้งโครง โดยมีถิ่นฐานอาศัยทั่วไป อยู่ในทวีปเอเชียใต้ และทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศไทย สาธารณรัฐศรีลังกา ประเทศพม่า ประเทศลาว ประเทศกัมพูชา และประเทศเวียดนาม

โดยอาศัยตามป่าดิบชื้น ในระดับความสูง จากระดับน้ำทะเล 0 – 2,000 เมตร ซึ่งในประเทศไทย พบอยู่ในทุกภาค ยกเว้นพื้นที่ราบลุ่มของภาคกลาง สามารถพบเห็นได้ทั้ง 2 ชนิดย่อย ได้แก่ Intermedia (พบมากในภาคเหนือ) และ Religiosa (ขนาดตัวใหญ่กว่าชนิดแรก พบมากในภาคใต้) ถูกเรียกว่า นกขุนทองควาย [1]

ภาพลักษณ์และพฤติกรรม

ลักษณะของนกขุนทอง เป็นนกขนาดเล็ก ลำตัวสั้นป้อม ความยาวประมาณ 29 เซนติเมตร หางสั้น มีปีกแหลมยาว ปกคลุมไปด้วยขน สีดำเงาเหลือบเขียว จะงอยปากเป็นสีแดงส้มสดใส และขาสีเหลือง โดยเพศผู้และเพศเมีย จะค่อนข้างมีลักษณะคล้ายกัน แยกเพศจากภายนอกได้ยาก

พฤติกรรมโดยทั่วไป จะชอบส่งเสียงร้อง ตอนเช้าตรู่และพลบค่ำ เป็นเสียงหวีดแหลม ตามด้วยเสียงเลียนแบบอื่น ๆ อย่างเช่น เสียงกรีดร้อง เสียงเพลงเป็นทำนอง และเสียงพูดของมนุษย์ โดยสามารถเลียนแบบเสียงได้ 3 – 13 แบบ มีขอบเขตการได้ยินเสียง น้อยกว่า 15 กิโลเมตร

นิสัยค่อนข้าง รักความสะอาด ชอบอาบน้ำ ตกแต่งขนเป็นประจำ อยู่รวมกันเป็นฝูง ตั้งแต่ 6 ตัวขึ้นไป และไม่ค่อยกลัวคน สำหรับการผสมพันธุ์ในไทย อยู่ในช่วงเดือนมกราคม – เดือนกรกฎาคม ทำรังบนต้นไม้สูงกว่า 10 – 40 ฟุต โดยวางไข่เพียง 2 – 3 ฟอง / ครั้ง และลูกนกเริ่มหัดบินในช่วง 25 – 28 วัน

นกขุนทอง มีกี่สายพันธุ์?

เจ้าขุนทองที่เราเห็นกันทั่วไป ในประเทศไทย พบเพียงแค่ 2 ชนิดย่อยเท่านั้น คือ นกขุนทองเหนือ และ นกขุนทองใต้ ซึ่งมีอีกหลายชนิด ที่มีลักษณะคล้ายกัน กระจายอยู่ตามแหล่งต่าง ๆ นอกเหนือจากในไทย รายละเอียดสายพันธุ์ ดังนี้

  • Andamanensis : พบมากในเทือกเขาอันดามัน หมู่เกาะอันดามัน และหมู่เกาะนิโคบาร์
  • Batuensis : พบส่วนมากในเกาะบาตู และเกาะมันตาวี
  • Halibrecta : แหล่งอาศัยบริเวณรอบหมู่เกาะนิโคบาร์
  • Intermedia : อาศัยอยู่ในภาคเหนือ และภาคตะวันตก ของประเทศอินโดนีเซีย รวมถึงภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ของประเทศอินเดีย และทางตอนใต้ ของประเทศจีน
  • Palawanensis : ถิ่นอาศัยส่วนมากในเกาะปาลาวัน ของประเทศฟิลิปปินส์
  • Peninsularis : ถิ่นอาศัยพบเห็นในภาคกลาง ของประเทศอินเดีย
  • Religiosa : พบอยู่ตามภูมิภาคซุนดา และมาเลเซียตะวันตก
  • Venerata : พบได้ตามภาคตะวันตก ของภูมิภาคซุนดา

สถานะและแนวทางการดูแล นกขุนทอง

นกขุนทอง

สถานภาพนกขุนทองไทย ในปัจจุบันอยู่ในกลุ่ม นกป่าในไทย อายุขัยเฉลี่ย 10 – 20 ปี ถูกจัดให้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติในปี พ.ศ. 2535 จึงไม่สามารถเพาะเลี้ยงได้เอง แต่สามารถเลี้ยงได้ แบบถูกต้องตามกฎหมาย จากฟาร์มเพาะเลี้ยง และต้องมีใบอนุญาตครอบครองเท่านั้น

การเลี้ยงดูแลนกเบื้องต้น

นกขุนทองเลี้ยงในกรง เป็นนกแบบเกาะคอน ควรเลือกกรงขนาดเหมาะสม โดยมีความกว้างและสูง ประมาณ 60 x 90 เซนติเมตร สามารถกางปีกได้สะดวก ทำให้นกรู้สึกมีอิสระ และมีพื้นที่ออกกำลังกาย ภายในกรงควรมีของเล่น สำหรับกัดแทะ จากวัสดุธรรมชาติอีกด้วย

การเลี้ยงแบบนอกกรง จะส่งผลดีต่อสุขภาพกายและจิตใจ ของนกเป็นอย่างมาก เพราะอยู่กับสิ่งแวดล้อม คล้ายกับแหล่งอาศัย ในป่าธรรมชาติ อากาศค่อนข้างปลอดโปร่ง สามารถออกกำลังกายได้ตลอดเวลา แต่เจ้าของต้องคำนึงถึง แสงแดด และฝนตก ไม่ควรให้โดนมากเกินไป จะทำให้นกป่วยได้ง่าย [2]

อาหารที่ดีสำหรับ นกขุนทอง

อาหารของขุนทอง เป็นแบบอาหารเฉพาะ และค่อนข้างมีหลากหลาย เจ้าของควรเลือกสรรอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ตรงตามความต้องการ เพราะหากอาหารมีคุณภาพต่ำ จะส่งผลให้ขุนทองป่วย หรือเสียชีวิตได้เร็วขึ้น

โดยการเลือกอาหาร ตามสูตรอาหารนก มีดังนี้

  • อาหารสูตรบำรุงร่างกาย และเสริมภูมิคุ้มกัน : ประกอบด้วย กรดอะมิโน แร่ธาตุ และวิตามิน
  • อาหารสูตรร้องเร็ว : ช่วยให้นกมีเสียงหวานสดใส ดังก้องกังวาน เนื่องจากว่าเป็นนกที่ชอบส่งเสียง และชอบเลียนแบบเสียงพูด โดยมีส่วนผสมของไข่ และน้ำผึ้งเป็นหลัก
  • อาหารสูตรขนสวย : สารอาหารครบถ้วน วิตามิน และกรดอะมิโน ช่วยบำรุงให้ขนสวยเงางาม และสีสันคมชัดมากขึ้น ประกอบด้วย Vitamin C, Canthaxanthin, Carotenoid, Omega 3 และ Omega 6
  • อาหารสูตรควบคุมธาตุเหล็ก : เหมาะสำหรับนกชอบกินผลไม้ เพราะช่วยเข้าควบคุมธาตุเหล็ก หมดปัญหาธาตุเหล็กเยอะเกิน ที่อาจส่งผลให้เกิดอาการหอบ การร้องไม่มีเสียง หรืออุจจาระเป็นสีเหลือง

การเลือกอาหาร จากสารอาหารครบถ้วนเป็นหลัก ดังต่อไปนี้

  • อาหารมีโปรตีน และกรดอะมิโน : อาหารประเภทโปรตีนสูง จะช่วยให้กล้ามเนื้อ และเส้นขนแข็งแรง พร้อมกับกรดอะมิโนไลซีน และซิสตีอีน ที่ช่วยในกระบวนการผลัดขน
  • อาหารมีคาร์โบไฮเดรต และไขมัน : แหล่งพลังงานดี ในปริมาณที่เหมาะสม จะทำให้นกไม่อ้วน
  • อาหารมีวิตามิน และแร่ธาตุ : เสริมสร้างภูมิต้านทาน และการทำงานของระบบในร่างกาย โดยมีส่วนประกอบจำเป็น คือ Vitamin A, Vitamin E, Vitamin B complex, Vitamin D3 และ Calcium
  • อาหารมีเกลือ และโซเดียม : ช่วยปรับสมดุลในร่างกาย หากกินในปริมาณที่เหมาะสม

ที่มา: 10 อันดับ อาหารนกขุนทอง ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 สารอาหารครบถ้วน [3]

สรุป นกขุนทอง “Hill Myna”

นกขุนทอง เจ้านกช่างพูดช่างจา เหมือนกับเสียงของมนุษย์ ทั้งยังร้องเป็นทำนองเพลงได้ไพเราะ หนึ่งในนกป่าสวยงามของไทย เป็นสัตว์คุ้มครอง สามารถเลี้ยงได้แบบมีใบอนุญาต หากเลี้ยงดูแลอย่างดี จะสามารถมีอายุยืนยาวได้มากกว่า 20 ปี

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง