เปิดโลก นกโจรสลัด นักเลงขโมยอาหารแห่งมหาสมุทร

นกโจรสลัด

นกโจรสลัด เรือรบขนาดใหญ่ ที่สามารถบินได้ อยู่เหนือมหาสมุทร นั่นคือนกจอมขโมยอาหาร ที่มาของชื่อโจรสลัดแห่งท้องทะเล นกที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ไม่เหมือนใคร สังเกตได้จากถุงใต้คอสีแดงสด ตัดกับสีดำของลำตัวอย่างชัดเจน พามาสำรวจความสามารถพิเศษ พฤติกรรมแย่งอาหาร และข้อมูลประชากร

นกโจรสลัด นกจอมแย่งประจำน่านน้ำ

นกโจรสลัด (Frigatebird) หรือเรียกว่า นกฟรีเกต นกทะเลขนาดกลาง จัดอยู่ในวงศ์ของ นกนางแอ่น พบเห็นส่วนมากในเขตร้อน และกึ่งเขตร้อน ทั่วบริเวณมหาสมุทร ซึ่งถูกค้นพบซากดึกดำบรรพ์ จากแหล่งน้ำจืด ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ และได้รับการแนะนำชนิด ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1738 โดยนักธรรมชาติวิทยา ชาวอังกฤษ [1]

จำแนกสายพันธุ์ นกโจรสลัด

การแบ่งสายพันธุ์ของนกโจรสลัด ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มของ นกกระทุง และนกซูลิด โดยอิงจากลักษณะเด่น เป็นจะงอยปากตรง และปลายงอน ประกอบไปด้วย 5 สายพันธุ์ ตามรายละเอียดดังนี้

  • นกนางแอ่นทะเลใหญ่ : ขนาดความยาวลำตัว 89 – 114 เซนติเมตร สายพันธุ์ตัวใหญ่ที่สุด และมีจะงอยปากยาวที่สุด โดยเพศผู้มีขนสีดำทั้งตัว ถุงใต้คอสีแดงสด แหล่งอาศัยในเขตร้อน ของแอตแลนติก ฟลอริดา แคริบเบียน หมู่เกาะกาบูเวร์ดี แนวชายฝั่งแปซิฟิก และหมู่เกาะกาลาปากอส
  • นกนางแอ่นทะเลเล็ก : ขนาดของลำตัวเล็กกว่า มีขนสีดำหรือสีน้ำตาลทั้งตัว พบเฉพาะในเกาะ Boatswain Bird และเกาะ Ascension ในเขตร้อนของมหาสมุทรแอตแลนติก
  • นกนางแอ่นเกาะคริสต์มาส : สายพันธุ์เดียวที่มีสีขาว ตรงท้องและตรงคอ ลำตัวเป็นขนสีดำผสมสีน้ำตาล มีจะงอยปากค่อนข้างยาว ถิ่นอาศัยแค่ในเกาะคริสต์มาส ของมหาสมุทรอินเดียตะวันออก
  • นกนางแอ่นใหญ่ : นกขนสีดำสนิทปกคลุมทั้งตัว และมีแถบสีน้ำตาลจาง ๆ ถุงคอสีแดงสด พบมากบริเวณมหาสมุทรอินเดีย แปซิฟิกเขตร้อน และมหาสมุทรแอตแลนติกตอนใต้ ที่มีอุณหภูมิน้ำอุ่นกว่า 22 องศาเซลเซียส
  • นกนางแอ่นเล็ก : ขนาดความยาวของตัว ประมาณ 71 – 75 เซนติเมตร สายพันธุ์ตัวเล็กที่สุด โดยมีสีขนเป็นสีดำเกือบทั้งตัว และหน้าอกกับคอเป็นสีขาว แหล่งอาศัยหลัก ในน่านน้ำเขตร้อน และกึ่งเขตร้อน ของมหาสมุทรอินเดีย และแปซิฟิก ในปัจจุบันคือชนิดที่สูญพันธุ์ไปแล้ว

พฤติกรรมและการหาอาหารทั่วไป

พฤติกรรมตามนิเวศวิทยา เป็นนกที่มีอัตราส่วนของปีก ค่อนข้างมีน้ำหนักมาก ในบรรดานกทั้งหมด ซึ่งสามารถบินได้ กลางอากาศนานต่อเนื่อง ประมาณ 1 – 2 เดือน และบินในสภาพอากาศหนาวจัด สูงกว่า 4,000 เมตร เพื่อหาแหล่งอาหารเหมาะสม และการผสมพันธุ์ โดยมีอายุขัยเฉลี่ย 37 – 44 ปี

การผสมพันธุ์ เกิดขึ้นบนเกาะ ที่ห่างจากมหาสมุทร ในช่วงฤดูแล้ง หรือตลอดทั้งปี โดยมีอาณานิคมนก ประมาณ 5,000 ตัว ทำรังกันเป็นกลุ่ม จำนวน 10 – 30 ตัว โดยวางไข่เพียง 1 ฟอง / ครั้ง กกไข่เป็นเวลา 41 – 55 วัน และใช้เวลาการดูแลนานหลายปี จนกว่าเติบโตได้ นับว่ายาวนานมาก รองจากนกเงือกทะเลใต้

นิสัยการกิน ของนกโจรสลัด เลือกกินสัตว์น้ำ อย่างเช่น ปลาทูน่า ปลาบิน ปลามอสบันเกอร์ หอย ปลาหมึก แมงกะพรุน และแพลงก์ตอน โดยพวกมันเรียนรู้การหาอาหาร จากการติดตามเรือประมง หรือบินวนเหนือฝูงนกทะเลชนิดอื่น แล้วขโมยอาหาร ซึ่งมีความต้องการอาหารมาก 40% แต่เฉลี่ยแล้วจะได้เพียงแค่ 5%

นกโจรสลัด รวมเรื่องอัศจรรย์ทางธรรมชาติ

นกโจรสลัด

รู้หรือไม่? ทำไมถึงเรียกว่านกโจรสลัด แน่นอนว่ามาจาก พฤติกรรมการขโมยอาหาร โดยเล็งเป้าหมายไปที่นกขนาดเล็ก คอยรังแกสารพัด จนกว่าจะยอมคายเหยื่อออกมา นอกจากนั้น ยังมีอีกชื่อคือ แร้งทะเล เพราะสามารถบินได้ทั้งวันทั้งคืน ร่อนในกระแสลมอย่างคล่องตัว และนานหลายวันติดต่อกันด้วย

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับนก โจรสลัด

รวมข้อเท็จจริงของนก โจรสลัด ความสามารถพิเศษ ที่นกหลายตัวไม่ค่อยมี ดังต่อไปนี้

  • นกทะเลเพียงชนิดเดียว ที่แยกลักษณะทางกายภาพ ของเพศผู้และเพศเมียชัดเจน โดยเพศเมียจะไม่มีถุงใต้คอสีแดง แต่มีขนาดตัวค่อนข้างใหญ่กว่า
  • ระยะเวลาการผสมพันธุ์ และการเลี้ยงลูกนก ยาวนานเป็นพิเศษ โดยใช้เวลามากกว่า 1 ปี
  • การใช้ชีวิตส่วนมาก อยู่กับการบินเหนือมหาสมุทร ซึ่งแทบจะไม่เคยสัมผัสน้ำเลย แม้ว่าจะมีพังผืด สำหรับการว่ายน้ำก็ตาม เพราะว่ามันดำน้ำไม่ได้ และไม่มีขนกันน้ำ แตกต่างจากนกทะเลชนิดอื่น
  • วิธีการติดตามไล่นก และการแย่งอาหาร ต้องอาศัยการฝึกฝน ตั้งแต่ช่วงโตเต็มวัย โดยฝึกจากนกเล็กทุกตัวคาบกิ่งไม้ พร้อมกับบินไล่ตามกัน หากนกตัวหนึ่งทำกิ่งไม้หล่น พวกมันจะคอยโฉบเก็บกิ่งไม้กลับมา เป็นการฝึกขโมยอาหารนั่นเอง
  • นอนหลับกลางอากาศ นกทะเลประเภท นกอพยพต่างถิ่น ต้องบินต่อเนื่องนานหลายเดือน จึงมีพฤติกรรมการหลับขณะบิน เป็นเวลา 41 นาที / วัน ซึ่งสามารถกระพือปีกบินได้อยู่ และงีบหลับในช่วงสั้น ๆ เพียง 12 วินาที แต่หากอยู่บนบก จะใช้เวลานอนหลับนาน 12 ชั่วโมง

ที่มา: Magnificent Frigatebird [2]

ข้อมูลประชากร นกโจรสลัด

การสำรวจประชากรนกโจรสลัด พบว่ามีแนวโน้มจำนวนลดลง โดยรวมมีประชากร 1,800 – 3,600 คู่ สำหรับนกนางแอ่นคริสต์มาส เสี่ยงต่อการใกล้สูญพันธุ์อย่างยิ่ง ซึ่งมีจำนวนประมาณ 1,200 คู่ และนกนางแอ่นทะเลเล็ก อยู่ในกลุ่มสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ คาดว่ามีประมาณ 12,500 ตัว

สำหรับประชากร ทางแอตแลนติกใต้ ค่อนข้างมีจำนวนน้อยมาก ซึ่งเคยเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ ของนกนางแอ่นทะเลใหญ่ แต่ปัจจุบันป่าถูกทำลายมากเกินไป ส่งผลให้ไม่มีอาณานิคมนกโจรสลัดแล้ว จะเหลือเพียงแค่ รังนกนางแอ่นทะเลเล็ก 15 รัง เท่านั้น และไม่มีรายงาน ประชากรเพิ่มเติมอีกเลย [3]

สรุป นกโจรสลัด “Frigatebird”

นกโจรสลัด นกทะเลนักขโมยปลา พฤติกรรมชอบรังแกนกชนิดอื่น เพื่อแย่งอาหาร และมีความสามารถพิเศษหลากหลาย โดยพบเห็นตามมหาสมุทรเขตร้อน มีขนสีดำทั้งตัว และถุงใต้คอสีแดงเด่นชัด ใครเห็นก็สามารถแยกชนิด ออกจากนกทะเลทั่วไปได้ค่อนข้างง่าย

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง