ปลากระดี่มุก ปลาที่มีครีบขนาดใหญ่กว่าตัว

ปลากระดี่มุก

ปลากระดี่มุก (Pearl Gourami) หนึ่งในกลุ่มปลาสวยงามน้ำจืด ในสกุล Trichopodus ที่มีความน่ารับเลี้ยงไม่น้อย เหมือนกันกับ ปลากระทิงไฟ มักมีรูปร่างคล้ายปลากระดี่หม้อ (T. trichopterus) ซึ่งเป็นปลาที่อยู่ในสกุลเดียวกัน แต่ปลาชนิดนี้มีลำตัว กว้างกว่าเล็กน้อย

โดยลวดลายของพวกมัน ครีบหลัง ครีบหาง และครีบก้นใหญ่ มีแถบสีดำจางพาดยาว ไปจนถึงโคนครีบหาง ซึ่งในวันนี้ เราจะพาคนชื่นชอบปลา ทั้งหลายมาทำความรู้จัก อย่างละเอียดเกี่ยวกับ ลักษณะของปลาพันธุ์ดังกล่าว รวมถึงความเป็นมาหรือที่มา ลักษณะทางกายภาพ ข้อมูล พร้อมราคาต่างๆ เพื่อให้ท่านเข้าใจกันให้มากยิ่งขึ้น

ประวัติ ปลากระดี่มุก

ปลากระดี่มุก และมีชื่อทางด้านวิทยาศาสตร์ว่า Trichopodus leerii สำหรับปลาชนิดนี้ เป็นปลาสายพันธุ์น้ำจืด จัดอยู่ในวงศ์เดียวกันกับ ปลากระดี่ และสามารถพบในทวีป เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตามแม่น้ำที่แผ่กิ่งก้านสาขา ซึ่งไหลผ่านหลายประเทศ รวมถึงเวียดนาม ไทย กัมพูชาและลาว เป็นต้น

นอกจากนี้ พวกมันจัดเป็นปลาขนาดเล็ก และมีลำตัวกว้างกว่าเล็กน้อย ครีบหลัง ครีบหาง และครีบก้นมีขนาดใหญ่ และมีก้านครีบอ่อนยาว เป็นเส้นริ้ว มีขนาดความยาวเต็มที่ประมาณ 10 ถึง 12 เซนติเมตร และมีพฤติกรรมมักอาศัยอยู่เป็นคู่หรือกลุ่มเล็กๆ ในแหล่งน้ำที่มีค่าของน้ำ มีความเป็นกรด (pH) ต่ำกว่าค่าของน้ำปกติ (ต่ำกว่า 7.0) [1]

ราคา ปลากระดี่มุก

สำหรับราคาปลาพันธุ์นี้ในไทย มีขายทั้งลักษณะทั่วไป ราคาตกอยู่ลาสายพันธุ์นี้ ขายเริ่มต้นที่ 750 บาทขึ้นไป ซึ่งส่วนมาก จะแบ่งเป็นเกรดต่างๆ และมักขายแบบเป็นเซท 2 ตัว, 5 ตัว ขึ้นอยู่กับขนาดตัว [2] และหากใครที่สนใจจริงๆ แล้วละก็ ทุกคนสามารถเข้าไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่นี่ Pearl Gourami

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับปลา

  • วงจรชีวิต : โดยปลาสายพันธุ์ดังกล่าว มีพฤติกรรมชอบอยู่กันเป็นคู่ และเป็นฝูงเล็กๆ ชอบอยู่ในบริเวณน้ำจืดและน้ำกร่อย โดยประเทศของเรา อาศัยอยู่ตามริมฝั่งแม่น้ำที่อุดมสมบูรณ์เหล่านี้จดจำได้ง่าย ชอบอยู่แม่น้ำโขง หรือที่มักเรียกกันว่าแม่แห่งน้ำ เป็นระบบแม่น้ำ ที่แผ่กิ่งก้านสาขาซึ่งไหลผ่านหลายประเทศ รวมไปถึงเวียดนาม ไทย กัมพูชาและลาว
  • การขยายพันธุ์ : สำหรับปลาชนิดนี้ สามารถพบการขยายพันธุ์ค่อนข้างง่าย ในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากลูกปลาฟัก และนำพ่อแม่พันธุ์ ออกจากกะละมังแล้ว ให้อนุบาลลูกปลาในกะละมังพลาสติก ต่อประมาณ 2 สัปดาห์ ลูกปลาจะเริ่มกินอาหารในวันที่ 3 หลังจากการฟัก

นิสัย ปลากระดี่มุก

ปลากระดี่มุก

สำหรับปลาสายพันธุ์นี้ ที่มีอุปนิสัยสุภาพ ไม่เป็นพิษเป็นภัย ต่อเพื่อนร่วมตู้ และจัดว่าเป็นชนิดหนึ่ง เป็นปลาที่เลี้ยงได้ไม่ยุ่งยาก นอกจากนี้ มีความสวยงามไม่แพ้ปลา เมื่อเทียบกับปลาน่าเลี้ยงชนิดอื่น สำหรับปลาชนิดนี้ และเป็นปลาที่มีพฤติกรรมหากิน ในเวลากลางคืน นิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงามในตู้ โดยเฉพาะในตู้ไม้น้ำ พวกมันเป็นปลา ที่สามารถเพาะพันธุ์ ในสถานที่เลี้ยงได้ และมีการแข่งขัน ประกวดความสวยงาม อีกด้วย

รูปร่าง ปลากระดี่มุก

โดยรูปร่างทั่วไป ปลาสายพันธุ์นี้ เป็นปลากลุ่มน้ำจืด และมีราคาสูงมากนัก ซึ่งปลาสายพันธุ์ดังกล่าว มีสีสันและลวดลายสวยงาม มีลำตัวกว้างกว่าเล็กน้อย ครีบหลัง ครีบหาง และครีบก้นมีขนาดใหญ่ และมีก้านครีบอ่อนยาวเป็นเส้นริ้ว 

นอกจากนี้ พวกมันยังมีลำตัวสีเงินจาง มีแถบสีดำจางพาดยาวไปถึงโคนครีบหาง ท้องมีสีส้มหรือสีจาง และมีจุดกลมสีเงินมุก หรือสีฟ้าเหลือบกระจายไปทั่ว นิยมเลี้ยงเป็นปลาตู้สวยงาม โดยเฉพาะในตู้ไม้น้ำ ซึ่งปลาสายพันธุ์นี้ โตเต็มที่อยู่ราวประมาณ 12 เซนติเมตร และเป็นที่ชื่นชอบอย่างมาก ในตอนนี้ [3]

ภาพรวมสายพันธุ์ กระดี่มุก

  • อาณาจักร : Animalia
  • ต้นกำเนิด : สามารถพบในทวีป เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทุกประเทศ ไปจนถึงอินโดนีเซีย
  • สัดส่วน : ความยาวได้สูงสุด 10 – 12 เซนติเมตร (3.93 – 4.72 นิ้ว)
  • อาหาร : กินพืชหรือกินเนื้อได้บ้าง ได้แก่ สิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก, กุ้ง และ หนอนแก้ว เป็นต้น
  • ระดับการดูแล : ค่อนข้างง่าย
  • คุณภาพน้ำ : ค่า pH ควรอยู่ที่ 6.0 – 8.0
  • อุณหภูมิ : อุณหภูมิที่เหมาะสมควรอยู่ที่ 25 – 28 องศา
  • การผสมพันธุ์ : ออกลูกเป็นไข่
  • เพื่อนร่วมตู้ : สำหรับเพื่อนร่วมตู้นั้น ซึ่งได้แก่ ปลาปลาหมอแคระ, ปลาที่มีขนาดตัวเล็ก (เตตร้า, ดานิโอ้), ปลาหางนกยูง, ปลาสอด (ปาร์ตี้, หางดาบ) เป็นต้น

สรุป ปลากระดี่มุก “Pearl Gourami”

ปลาสายพันธุ์ กระดี่มุก จัดเป็นปลาสายพันธุ์น้ำจืด และเป็นปลาสวยงาม ที่มีสีสันและลวดลายน่าดู พวกมันสามารถกินอาหารได้ ทั้งอาหารเกล็ด อาหารเม็ด สิ่งมีชีวิต อาทิ กุ้งฝอยและหนอนแก้ว เป็นระบบแม่น้ำ ที่แผ่กิ่งก้านสาขาซึ่งไหลผ่านหลายประเทศ อีกทั้ง พวกมันมีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศนี้ โดยเป็นปลาที่มันกินแมลงในน้ำและเหยื่อขนาดเล็ก ซึ่งช่วยรักษาสมดุล ของสายใยอาหารในแม่น้ำ อีกด้วย

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง