
ปลาทอง (Goldfish) หนึ่งในกลุ่มปลาน้ำจืด ที่มีความน่าสนใจเหมือนกับ ปลาหางนกยูง ซึ่งปลาสายพันธุ์ดังกล่าว เป็นปลาชนิดหนึ่งที่พบได้ทั่วไป ในแม่น้ำต่างๆ ทั้งประเทศไทย และต่างประเทศ พวกมันเป็นปลา ก็เป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยม ของคนไทยอีกหนึ่งชนิด
แถมชื่อยังเป็นมงคลอีกต่างหาก ทว่าปลาชนิดนี้ มีหลากหลายสายพันธุ์ ให้เลือกซื้อกันได้เอง ซึ่งในบทความนี้ เราจะพาท่านมาทำความเข้าใจ อย่างละเอียดเกี่ยวกับ ลักษณะของปลาพันธุ์ดังกล่าว รวมถึงความเป็นมา ลักษณะทางกายภาพ ข้อมูล พร้อมราคาต่างๆ เพื่อให้ท่านเข้าใจกันให้มากยิ่งขึ้น
ปลาทอง และมีชื่อทางด้านวิทยาศาสตร์ว่า Carassius auratus ซึ่งปลาชนิดนี้เป็นปลาสายพันธุ์น้ำจืด และสามารถพบการขยายพันธุ์ อย่างกว้างขวาง ซึ่งได้แก่ ประเทศจีนและญี่ปุ่น ต่อมาถูกพัฒนาสายพันธุ์มาไม่ต่ำกว่า 2,000 ปี
ซึ่งปลาสายพันธุ์ดังกล่าว ที่มีลวดลายค่อนข้างสวยงามไม่น้อย ทำให้ได้รับการยอมรับ เป็นปลามงคลในตอนนี้ และมีราคาค่อนข้างแพงบางสายพันธุ์ แต่จะเลี้ยงไม่ค่อยรอด เนื่องจากปลามักประสบปัญหากับ การปรับตัวให้อยู่กับน้ำ หรือภาวะแวดล้อม ในที่เลี้ยงไม่ค่อยได้ อีกด้วย
และปลาชนิดนี้มีอายุมากกว่า 20 – 30 ปี ต่อมาถูกนำไปเลี้ยง ในทวีปยุโรป เมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 17 และถูกนำไปเผยแพร่ ทวีปอเมริกา ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 สำหรับในประเทศไทย เชื่อว่าพวกมันเข้าในสมัย อยุธยาตอนกลาง เพื่อเป็นของบรรณาการ ในราชสำนักราว ค.ศ. 1370-1489 [1]
สำหรับราคาปลาพันธุ์นี้ในไทย มีขายทั้งลักษณะทั่วไป ราคาตกอยู่ลาสายพันธุ์นี้ ขายเริ่มต้นที่ 50 บาทขึ้นไป ซึ่งส่วนมาก จะแบ่งเป็นเกรดต่างๆ และมักขายแบบเป็นไซร์ 1.5 – 2 ขึ้นอยู่กับขนาดตัว [2] และหากใครที่สนใจจริงๆ แล้วละก็ ทุกคนสามารถเข้าไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่นี่ เพาะพันธุ์ปลาทองขาย เน้นพันธุ์คุณภาพ
สำหรับปลาสายพันธุ์ดังกล่าว ได้พัฒนาเป็นปลาอย่างต่อเนื่อง เพื่อความสวยงามมากขึ้น หรือมากหลากหลายสายพันธุ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกมันมีทั้งสวยงาม น่ารัก เลี้ยงง่าย และมีชีวิตชีวา แถมชื่อยังเป็นมงคลอีกต่างหาก ทว่าปลาชนิดนี้มีหลากหลายสายพันธุ์ให้เลือกซื้อ จนทำให้คนที่เพิ่งเริ่มสนใจ อาจจะสับสนได้ ดังต่อไปนี้
สำหรับปลาสายพันธุ์นี้ ที่มีอุปนิสัยดี มีความไหวพริบสูง ซึ่งเป็นเหตุผลที่เป็นปลาน่าสนใจ หรือหากใครได้ลองรับเลี้ยงแล้วละก็ หลงรักพวกมันอย่างแน่นอน นอกจากนี้ เป็นปลาที่เลี้ยงปลาชนิดนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ใส่ใจกับภาชนะเลี้ยง สภาพน้ำ การให้อาหาร และหมั่นสังเกตเจ้าปลาตัวโปรด ของทุกท่านอย่างสม่ำเสมอ
โดยรูปร่างทั่วไป ปลาสายพันธุ์นี้ เป็นปลาน้ำจืด และมีราคาค่อนข้างสูง และมีรูปร่างหรือลักษณะ อ้วน มีเกล็ดเรียบ ครีบอกกลม ครีบหางเป็นรูปพัด ปลาตัวผู้เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์ จะมีตุ่มสิวขึ้นตามครีบอก และใบหน้าอย่างเห็นได้ชัดเจน
ปลาตัวเมียมักจะ วางไข่ตามพืชน้ำ ไข่ใช้เวลาฟักตัวประมาณ 2 วัน พวกมันมีสีหลากหลาย ตั้งแต่สีแดง สีทอง สีส้ม สีเทา สีดำ และสีขาว หรือหลายสีในตัวเดียว ในธรรมชาติชอบอาศัยตามหนองน้ำ และลำคลองที่ติดกับแม่น้ำ [3]
ปลาสายพันธุ์ทอง จัดเป็นปลาสายพันธุ์น้ำจืด ที่มีความนิยมเลี้ยงกัน ในปัจจุบันมีด้วยกันทั้งหมด 6 สายพันธุ์ และปลามีขนาดกำลังน่ารัก ไม่น่าจะเติบโตจนตัวใหญ่ เกินอุ้งมือได้ แต่ยังมีปลาสายพันธุ์หนึ่ง ที่ถูกพัฒนาให้ตัวใหญ่เต็มที่ ได้มากถึงประมาณ 8 – 10 นิ้ว นั่นก็คือ ปลาทองฮอลันดา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเลี้ยง ในตู้หรือบ่อเป็นอย่างมาก