รีวิว ปลาปากแตร ปลาที่พบเจอได้ง่าย

ปลาปากแตร

ปลาปากแตร (Trumpet) หนึ่งในกลุ่มปลาน้ำเค็ม จัดเป็นปลาสายพันธุ์ ที่มีความพิเศษไม่น้อย ซึ่งปลาพันธุ์ชนิดนี้ นิสัยเป็นนักล่า และสามารถดูแลได้ง่าย มีลวดลายหลากสี และไม่เป็นอันตราย ต่อปลาตัวอื่น มีลำตัวยาว มีปากยาว และใหญ่ ครีบหางรูปพลั่วมีจุดสีดำขนาดเล็ก 2 จุด

สามารถพบกระจายพันธุ์ ในมหาสมุทรแปซิฟิก และแถบอินโด – แปซิฟิก ซึ่งในบทความนี้ เราจะพาท่านมาทำความเข้าใจ อย่างละเอียดเกี่ยวกับ ลักษณะของปลาพันธุ์ดังกล่าว รวมถึงความเป็นมา ลักษณะทางกายภาพ ข้อมูล พร้อมราคาต่างๆ เพื่อให้ท่านเข้าใจกันให้มากยิ่งขึ้น

ความเป็นมา ปลาปากแตร

ปลาปากแตร และมีชื่อทางด้านวิทยาศาสตร์ว่า Aulostomus chinensis ซึ่งเป็นปลาน้ำเค็ม จัดอยู่ในวงศ์ Acanthuridae เป็นปลาทะเลที่ชื่นชอบ การอยู่ตามแนวปะการัง จึงนิยมเลี้ยงเป็นปลาในตู้ จัดเป็นปลาเพียงชนิดเดียวในสกุล Aulostomus ปลาพันธุ์นี้ จะมีลำตัวสีสันมากมาย หลากหลายแบบด้วยกัน 

และสามารถพบการขยายพันธุ์ ในมหาสมุทรแปซิฟิก หรือแถบมหาสมุทรอินโด – แปซิฟิก นอกจากนี้ ยังพบตั้งแต่ฮาวาย, แอฟริกาตะวันออก จนไปถึงทะเลญี่ปุ่น ซึ่งพวกมันชอบอาศัยอยู่แนวปะการัง ที่มีน้ำค่อนข้างใส เช่น บริเวณหมู่เกาะ ที่อยู่ห่างจากชายฝั่ง 

ส่วนอาหารที่พวกมัน จะกินกุ้ง และปลาขนาดเล็กเป็นอาหาร มีพฤติกรรมล่าเหยื่อ โดยการว่ายน้ำตัวแนบ ติดไปกับปลาอื่น เช่น ปลาเก๋า เพื่อเข้าใกล้เหยื่อให้มากที่สุด ปลาชนิดนี้ มักออกหากิน ในเวลากลางคืน พบได้ที่ระดับความลึกตั้งแต่ 3 เมตร จนถึงมากกว่า 100 เมตร ไม่ได้ใช้เป็นปลาเศรษฐกิจ แต่มีความสำคัญ ในการเลี้ยง เป็นปลาสวยงาม ในน่านน้ำไทยพบได้ที่ เกาะยาง, เกาะราวี จังหวัดสตูล เป็นต้น [1]

รูปร่าง ปลาปากแตร

โดยรูปร่างทั่วไป ปลาสายพันธุ์นี้ เป็นปลาสวยงาม ที่ได้รับความชื่นชอบอย่างมาก และมีราคาแพง และเป็นปลาทะเล มีรูปร่างลำตัวยาว มีปากยาว และใหญ่ ครีบหางรูปพลั่ว มีจุดสีดำขนาดเล็ก 2 จุด ตอนปลายไม่มีแส้ยื่นยาวออกไป สีลำตัวมีหลากหลาย ทั้งสีเหลือง และสีเทาอ่อน สีน้ำตาล เป็นต้น มีความยาวได้ถึง 80 เซนติเมตร แต่พบโดยเฉลี่ย 60 เซนติเมตร เลยทีเดียว

พวกมันชอบกินปลา หรือสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก เป็นอาหารหลัก โดยการดูดเข้าไปพร้อมกับน้ำ พบทั่วไปในทะเลเขตร้อน นอกจากนี้ ปลาชนิดนี้ จัดเป็นปลาที่มีการแพร่ กระจายกว้างชนิดหนึ่ง เลยก็ว่าได้ บางครั้งพบว่ายน้ำ ติดตามสัตว์ที่มีขนาดตัวใหญ่ [2]

ภาพรวมสายพันธุ์ ปากแตร

  • ตระกูล :  Aulostomus 
  • ต้นกำเนิด : พบได้เจอตามมหาสมุทรแปซิฟิก หรือแถบมหาสมุทรอินโด – แปซิฟิก นอกจากนี้ ยังพบตั้งแต่ฮาวาย, แอฟริกาตะวันออก จนไปถึงทะเลญี่ปุ่น และประเทศไทยพบได้ที่ เกาะยาง, เกาะราวี จังหวัดสตูล เป็นต้น
  • สัดส่วน : ขนาด 60 – 80 เซนติเมตร (23.6 นิ้ว – 31.4 นิ้ว)
  • อาหาร : ชอบกินปลา หรือสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก เป็นอาหารหลัก
  • ระดับการดูแล : ปานกลาง
  • คุณภาพน้ำ : ค่า pH ควรอยู่ที่ 6.5 – 8.5
  • อุณหภูมิ : อุณหภูมิที่เหมาะสมควรอยู่ที่ 25 – 28 องศา
  • การผสมพันธุ์ : ออกลูกเป็นไข่

วิธีการเลี้ยง ปลาปากแตร

ปลาปากแตร

ปลาชนิดนี้ เป็นปลาที่น่าสนใจอีกหนึ่ง ที่อยากให้สัมผัสดูสักครั้ง เพราะว่าสามารถดูแลได้ง่าย ไม่ซับซ้อนอะไรมาก แถมยังมีสีสันสวยงาม ส่วนในเรื่องของอาหาร ที่ใช้ในการเลี้ยงนั้น จะเน้นเป็นปลา หรือสิ่งที่มีชีวิตที่มีขนาดได้ทั้งหมด

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับปลา

  • การเลี้ยงปลาชนิดนี้ ก็จำเป็นที่จะต้องใช้น้ำเค็ม ในการเลี้ยง โดยแหล่งน้ำที่ใช้เลี้ยงนั้น สามารถหาได้ ที่ใช้น้ำทะเลจริง ซึ่งควรจะใช้น้ำทะเล ที่ห่างจากฝั่งพอสมควร เพื่อที่จะได้ไม่มีมลภาวะต่างๆ หรืออาจจะซื้อน้ำ ที่มีขายอยู่ตามร้าน ขายปลาทะเลก็ได้
  • ระบบกรองน้ำในตู้นั้น เป็นปัจจัยสำหรับการเลี้ยงปลา เพราะว่าจะเป็นตัวสำคัญ ด้วยคุณภาพน้ำภายในตู้ปลา ที่จริงแล้วระบบกรองในตู้ปลา มีหลายแบบและมีข้อดีข้อเสีย ต่างกันออกไป ในที่นี้จะกล่าวถึง ระบบที่คนส่วนใหญ่ มักนิยมใช้และมีคุณภาพ
  • โดยทั่วไปแล้ว จะเป็นอุณหภูมิ ที่เหมาะสมกับการเลี้ยงปลาชนิดนี้ อยู่ที่ 25 – 28 องศา ซึ่งจะมีความสามารถ ในการทนต่ออุณหภูมิสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ปะการัง” จะชอบอยู่ในอุณหภูมิที่เย็น และอาจตายได้ ถ้าอยู่ในอุณหภูมิ ที่ร้อนจนเกินไป นั่นเอง

ปลาปากแตร ราคา

สำหรับราคาปลาพันธุ์นี้ในไทย มีขายทั้งลักษณะทั่วไป ราคาตกอยู่ลาสายพันธุ์นี้ ขายเริ่มต้นที่ $220.00 หรือ  7,288.70 บาทขึ้นไป [3] และหากใครที่สนใจจริงๆ แล้วละก็ ทุกคนสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่นี่ ปลาปากแตรเรียบ

สรุป ปลาปากแตร

ปลาสายพันธุ์ปากแตร จัดเป็นปลาสายพันธุ์น้ำเค็ม หรือที่นิยมเรียกว่า เป็นปลาสวยงาม และสามารถพบได้แหล่ง และพบได้ว่ายอยู่ท่ามกลาง แนวปะการัง หรือทะเลสาบในภูมิภาค อีกทั้ง พวกมันมักออกหากิน ในเวลากลางคืน รวมกลุ่มกันประมาณ 2 ถึง 3 ตัว พบได้ที่ระดับความลึกตั้งแต่ 3 เมตร จนถึงมากกว่า 100 เมตรเลยทีเดียว

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง