
หนูแฮมสเตอร์แคระ อยากเลี้ยงสัตว์ตัวเล็กอ้วนกลม หลายคนน่าจะต้องนึกถึง “เจ้าแฮมสเตอร์” โดยทั่วไปแล้วมีด้วยกัน 24 สายพันธุ์ แต่จะมีเพียง 5 สายพันธุ์เท่านั้น ที่เป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยม เพราะมีลักษณะตัวเล็กจิ๋ว เหมาะกับไลฟ์สไตล์ ของคนอยากเลี้ยง แบบประหยัดพื้นที่เป็นอย่างมาก
หนูแฮมสเตอร์แคระ (Dwarf Hamster) สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม อันดับฟันแทะขนาดเล็ก (Rodentia) อยู่ในจำพวกแฮมสเตอร์ (Cricetinae) โดยแบ่งออกเป็น 2 สกุล คือ Phodopus (Campbelli, Sungorus, Roborovskii) และ Cricetulus (Alticola, Barabensis, Kamensis, Longicaudatus, Migratorius, Sokolovi) [1]
ต้นกำเนิดของแฮมสเตอร์แคระ เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก มีลักษณะอ้วนกลม มีหางสั้นกว่าลำตัว และขนมีหลายสีตามแต่ละชนิด โดนส่วนมากจะมีขนใต้ท้อง เป็นสีขาว ทั้งยังมีดวงตากลมโต เป็นสีดำหรือสีแดง พร้อมกับจมูกการดมกลิ่น ที่ไวต่อการได้รับกลิ่นหอม
พบเจอบ่อยในแถบทะเลทราย ทางภูมิภาคตะวันออกกลาง ภูมิภาคเอเชียกลาง และภูมิภาคเอเชียตะวันออก ซึ่งถูกค้นพบครั้งแรก ช่วงศตวรรษที่ 19 อยู่ท่ามกลางทะเลทรายซีเรียน โดยถูกนำมาเป็นสัตว์เลี้ยง ในประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1930
แฮมสเตอร์ไจแอนท์ (Syrian Hamster) : สายพันธุ์เลี้ยงง่ายที่สุด เป็นมิตรอ่อนโยนต่อมนุษย์ เคลื่อนไหวค่อนข้างช้า รักความสันโดษ โอกาสในการกัดน้อย โดยมีขนาดตัว 15 – 17 เซนติเมตร น้ำหนักตัว 100 – 140 กรัม และอายุขัย ประมาณ 2 – 3 ปี
แฮมสเตอร์วินเทอร์ไวท์ (Winter White Hamster) : สายพันธุ์หน้าสั้นตัวกลม มีลักษณะพิเศษในการเปลี่ยนสีขน เป็นสีขาวในช่วงฤดูหนาว ค่อนข้างเชื่อง โอกาสกัดน้อยมากที่สุด และมีความว่องไว โดยมีขนาดตัว 7 – 10 เซนติเมตร น้ำหนักตัว 19 – 45 กรัม และอายุขัย ประมาณ 1.5 – 2 ปี
แฮมสเตอร์แคมเบล (Campbell Dwarft Hamster) : สายพันธุ์ขนาดเล็กตัวกลม นิยมเลี้ยงไว้เป็นกลุ่มกับเพศเดียวกัน ใช้พื้นที่น้อยกว่าสายพันธุ์อื่น แต่ต้องแบ่งแยกบ้าน เพราะอายุมากขึ้นจะหวงอาณาเขต โดยมีขนาดตัว 10 เซนติเมตร น้ำหนักตัว 27 กรัม และอายุขัย ประมาณ 1 – 2 ปี
แฮมสเตอร์โรโบรอฟสกี้ (Roborovski Hamster) : สายพันธุ์ตัวเล็กมากที่สุด ชอบเข้าสังคมกับหนูและคน มีความคล่องแคล่วว่องไว กระตือรือร้น มีแนวโน้มหวงอาณาเขต เมื่ออายุมากขึ้น โดยมีขนาดตัว 5 – 7 เซนติเมตร น้ำหนักตัว 20 – 25 กรัม และอายุขัย ประมาณ 3 – 4 ปี
แฮมสเตอร์จีน (Chinese Hamster) : สายพันธุ์ตัวเล็กเรียวยาว ชอบเข้าสังคม มีความรวดเร็ว ทั้งยังเป็นมิตร ผูกพันกับเจ้าของอย่างมาก แต่สามารถกัดได้หากรู้สึกระแวง โดยมีขนาดตัว 8 – 13 เซนติเมตร น้ำหนักตัว 30 – 45 กรัม และอายุขัย ประมาณ 2 – 3 ปี
ที่มา: 5 อันดับ หนูแฮมเตอร์พันธุ์ต่างๆ ยอดฮิต ! [2]
หนูแฮมสเตอร์ เป็นสัตว์ที่ชอบนอน ช่วงเวลากลางวัน และตื่นตัว ช่วงเวลากลางคืน จึงเหมาะกับบ้านที่ไม่มีเด็กเล็ก เพราะเจ้าหนูจะตื่นขึ้นมา ทำกิจกรรมต่าง ๆ ตอนกลางคืนเป็นหลัก ทั้งการกิน การวิ่งเล่นวงล้อ อาจส่งเสียงดังรบกวนได้ เหมาะมากที่จะเลี้ยงไว้ในสถานที่ปิด และคนที่ไม่มีเวลา เพราะค่อนข้างดูแลง่าย เลี้ยงง่าย แต่ควรใส่ใจสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญด้วย
เจ้าของมือใหม่ เตรียมตัวเลี้ยงเจ้าหนูแฮมสเตอร์ หลายคนอาจมีความกังวล เกี่ยวกับการเลี้ยง จะเหมือนกับแฮมสเตอร์ทั่วไปหรือไม่ ความจริงแล้ว มีวิธีการเลี้ยงต่าง ๆ ที่ไม่ยากเลย เราจึงรวมแนวทางการเลี้ยง ให้หนูและเจ้าของมีความสุข และสุขภาพดีไปพร้อมกัน
วิธีการเลี้ยงแฮมสเตอร์แคระ ควรมีกรงขนาดกว้างขวาง สำหรับมีพื้นที่วิ่งเล่น และปีนป่าย วางไว้ในบริเวณเงียบสงบ เพราะหนูค่อนข้างตกใจง่าย ทั้งยังควรมีบ้านส่วนตัว มีแผ่นรองกรงเหมาะสม ในการซับน้ำหรือกลิ่นได้ดี โดยทำมาจากวัสดุธรรมชาติ อย่างเช่น กระดาษ ขี้เลื่อย และ ไม้แอสเพน
อาหารและน้ำ แฮมสเตอร์แคระต้องได้รับสารอาหาร เหมาะสมในแต่ละวัน โดยมีปริมาณอาหารเม็ด 80% (ต้องมีคุณภาพสูง เหมาะกับสายพันธุ์นั้น ๆ) และผักสด หรือผลไม้สด 20% ที่ดีต่อร่างกาย รวมถึงการเตรียมน้ำสะอาด เพื่อให้ดื่มได้ตลอดทั้งวัน จากกระบอกน้ำ แบบแขวนติดกรง
สำหรับการเลือกซื้อแฮมสเตอร์ แน่นอนว่าต้องเป็นหนูสุขภาพดี ไม่ควรอ้วนหรือผอมจนเกินไป ร่างกายสะอาด มีขนาดของฟันที่พอดีกับปาก คางต้องไม่เปียกหรืออับชื้น และจังหวะหายใจต้องเงียบสงบ ไม่ควรมีเสียงหายใจติดขัด รวมถึงคอยสังเกต การเคลื่อนไหว ควรดูตื่นตัวไม่อ่อนแอ
ราคาของแต่ละสายพันธุ์ คือ สายพันธุ์ใจแอนท์ (ราคา 100 – 300 บาท), สายพันธุ์วินเทอร์ไวท์ (ราคา 80 – 300), สายพันธุ์แคมเบล (ราคา 100 – 200 บาท), สายพันธุ์โรโบรอฟสกี้ (ราคา 100 – 300 บาท) และ สายพันธุ์จีน (ราคา 80 – 200 บาท) [3] สามารถหาซื้อได้ ตามร้านจำหน่ายสัตว์เลี้ยงทั่วไป
หนูแฮมสเตอร์แคระ เพื่อนรักตัวจิ๋ว นิสัยและพฤติกรรมเฉพาะตัว ถ้าคิดจะเลี้ยงควรศึกษาอย่างละเอียด เพราะทุกสายพันธุ์ ไม่สามารถเลี้ยงด้วยกันได้ หากใครตกหลุมรัก เจ้าแฮมสเตอร์แคระเข้าให้แล้ว สามารถหาซื้อได้ง่าย มีราคาถูก ต่างจากสัตว์เลี้ยงแสนซนอย่าง แรคคูน ที่มีราคาสูงพอสมควร