สาระชีวิต หมีสีน้ำตาล เจ้าหมีรุ่นใหญ่ชอบกินพืช

หมีสีน้ำตาล

หมีสีน้ำตาล หมีขนสีน้ำตาลสวยงาม พี่ใหญ่แห่งยุโรป สายพันธุ์ของหมีขนาดใหญ่ ที่ชอบออกมาอยู่ในบริเวณแหล่งอาศัยของคน เพื่อมาหาอาหารบ่อยครั้ง หรือบางครั้งอาจเห็นว่าพวกมัน กำลังค้นถังขยะหน้าบ้านของคุณ ซึ่งพวกมันมีพืชเป็นอาหารโปรด แต่ก็อย่าคิดจะเข้าไปใกล้อย่างเด็ดขาด

ทำความรู้จัก หมีสีน้ำตาล แห่งผืนป่าโปร่ง

หมีสีน้ำตาล (Brown Bear) หมีขนาดใหญ่ จัดอยู่ในวงศ์หมี Ursidae มีถิ่นกำเนิดในทวีปยูเรเซีย และทวีปอเมริกาเหนือ โดยเป็นสายพันธุ์ใกล้เคียงกับ หมีขั้วโลก แต่เชื่อกันว่าหมีสีน้ำตาล วิวัฒนาการมาจาก หมีอีทรัสกัน ตั้งแต่ยุคไพลโอซีน ประมาณ 1.2 – 1.4 ล้านปีก่อน [1]

ขนาดและลักษณะหมี สีน้ำตาล

ลักษณะทางกายภาพ ของหมีสีน้ำตาล เป็นหมีขนาดใหญ่ แต่เพศผู้มักจะมีขนาดใหญ่กว่าเพศเมีย 30% และมีน้ำหนักมากน้อยตามฤดูกาล โดยทั่วไปแล้วจะมีขนาดความยาว 1.4 – 2.8 เมตร ความสูง 70 – 153 เซนติเมตร น้ำหนัก 80 – 600 กิโลกรัม และหางค่อนข้างสั้น ซึ่งมีความยาวเพียง 6 – 22 เซนติเมตร

สีขนมักไม่ใช่สีน้ำตาลทั้งหมด โดยจะมีสีน้ำตาลเข้มเกือบดำ สีน้ำตาลครีมเกือบขาว และสีน้ำตาลอมเหลือง เป็นขนค่อนข้างยาวและหนา แต่สัมผัสหยาบ มีแผงคอยาวปานกลาง ซึ่งขนจะยาวเป็นพิเศษ ในช่วงฤดูหนาว อาจยาวได้มากถึง 12 เซนติเมตร ส่วนในช่วงฤดูร้อน จะผลัดเป็นขนสั้นและบาง

กรงเล็บและเท้า มีกรงเล็บโค้งขนาดใหญ่ ความยาว 5 – 10 เซนติเมตร หากเทียบกับ หมีดำอเมริกัน เล็บของหมีสีน้ำตาลจะยาวกว่า และแข็งแรงมากกว่า แต่ไม่สามารถปีนต้นไม้ได้ดีเท่าที่ควร นอกจากนี้ยังมีอุ้งเท้าขนาดใหญ่ และมีโหนกที่ไหล่ เป็นกล้ามเนื้อสำหรับการขุดหาอาหาร ถูกใช้มากในการสร้างถ้ำก่อนจำศีล

พฤติกรรมจำศีล อาหาร และอายุขัย

พฤติกรรมหมีสีน้ำตาล จะทำกิจกรรมสูงสุด ในตอนเช้าและตอนเย็น และมีกิจกรรมเพิ่มน้ำหนักตัว 2 เท่า เพื่อเก็บสะสมไขมันไว้ใช้ในฤดูหนาว โดยจะเป็นการขุดโพรง ในบริเวณที่มีกำบัง จากสภาพอากาศหนาว อย่างเช่น ถ้ำ รอยแยก หรือโพรงรากไม้ ซึ่งพวกมันไม่ได้จำศีลแบบเต็มที่ สามารถปลุกให้ตื่นตัวได้เช่นกัน

แหล่งอาหาร เป็นสัตว์กินเนื้อและพืช แต่จะกินพืชมากเป็นพิเศษ เพราะได้รับสารอาหารมากถึง 90% ทั้งผลเบอร์รี ดอกไม้ ลูกโอ๊ก เมล็ดสน หญ้า เชื้อรา และเห็ด นอกจากนั้นยังกินเนื้อสัตว์ อย่างเช่น ปลาแซลมอน หอย กระรอกดิน หนูตะเภา ตัวอ่อนแมลง รังผึ้ง และผีเสื้อกลางคืน (อาจมากถึง 40,000 ตัว / วัน)

อายุขัยตามธรรมชาติ ค่อนข้างมีอายุยาวนานเฉลี่ย 4 – 20 ปี และพบอายุขัยนานที่สุด 47 ปี แต่ประชากรในป่า มีอัตราการเสียชีวิต ประมาณ 10% ของผืนป่าคุ้มครอง โดยลูกหมี มีอัตราการเสียชีวิต 13 – 44% ภายในปีแรกของการเกิด จากนักล่าขนาดใหญ่ ทั้งหมีสีน้ำตาลชนิดอื่น หมาป่า และ เสือไซบีเรีย

คลังความรู้รอบตัวกับเจ้า หมีสีน้ำตาล

หมีสีน้ำตาล

หมีสีน้ำตาลจัดอยู่ในกลุ่ม สัตว์เขตหนาว ที่หลายคนมักเข้าใจผิดคิดว่าเป็น หมีกริซลี ซึ่งแน่นอนว่าพวกมัน มีขนสีน้ำตาลเหมือนกัน แต่ความแตกต่างคือ หมีสีน้ำตาลมีรูปร่างเล็กกว่า มีน้ำหนักน้อยกว่า และพลังในการขุดโพรง หรือหาอาหารของหมีกริซลี ค่อนข้างมีมากกว่าด้วย จากกล้ามเนื้อที่แข็งแรงอย่างมาก

รวมข้อเท็จจริง หมีสีน้ำตาล

  • แม้ว่าจะมีน้ำหนักตัวค่อนข้างหนัก (เฉลี่ย 150 – 370 กก. และอาจมากถึง 600 กก.) แต่สามารถเดินทางระยะสั้น ด้วยความเร็วสูงสุด 50 กิโลเมตร / ชั่วโมง
  • หมีสีน้ำตาล ชอบอยู่อย่างโดดเดี่ยว และต้องการหาคู่ เพียงแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ
  • การกินพืชหรืออาหารอื่น ๆ จะใช้เวลามากถึง 16 ชั่วโมง / วัน รวมถึงในการหาอาหารด้วย
  • หมีมีประสาทการรับกลิ่นดีเป็นพิเศษ สามารถได้กลิ่นอาหาร ในระยะไกลหลายกิโลเมตร
  • หนึ่งในสัตว์นักล่าขนาดใหญ่ ที่ยังคงดำรงชีวิตอยู่ในทวีปยุโรป

ที่มา: 10 Facts About Brown Bears [2]

ประชากรและผลกระทบ จากการล่าหมี

รายงานประชากรหมีสีน้ำตาล พบประชากร ประมาณ 2,450 ตัว อาศัยอยู่ในประเทศสวีเดน ซึ่งมีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่อง สาเหตุจากการออกใบอนุญาตให้ล่าหมี ตามโควตาการล่า 486 ตัว คิดเป็นอัตราส่วนการเสียชีวิต 20% ของประชากรหมีสีน้ำตาลทั้งหมด

โดยนโยบายการล่าสัตว์ เป็นการจัดการ ประชากรสัตว์กินเนื้อขนาดใหญ่ ของประเทศสวีเดน ซึ่งสร้างความน่ากังวลเป็นอย่างมาก ของนักวิทยาศาสตร์ และนักอนุรักษ์สัตว์ป่า อาจส่งผลกระทบกับสายพันธุ์สัตว์ และระบบนิเวศทางธรรมชาติ แม้ว่าหมีสีน้ำตาล ถูกจัดอยู่ในสถานะสัตว์ป่าคุ้มครอง

ปัจจุบันนักอนุรักษ์ ได้พยายามเพิ่มจำนวนหมีสีน้ำตาล โดยกล่าวว่าในช่วงปี 1900 หมีสีน้ำตาลเกือบสูญพันธุ์ไปจากประเทศสวีเดน แต่สามารถเพิ่มประชากรขึ้นมาได้ มากถึง 3,298 ตัว ในช่วงปี 2008 ซึ่งหมีใช้เวลาในการเติบโต 3 – 4 ปี และออกลูกเพียงไม่กี่ตัวต่อครั้ง ภายในรอบ 2 – 3 ปี เท่านั้น [3]

สรุป หมีสีน้ำตาล “Brown Bear”

หมีสีน้ำตาล หมีขนสีน้ำตาลขนาดใหญ่ แหล่งกำเนิดและอาศัย ในทวีปยูเรเซียและอเมริกาเหนือ ชอบขุดโพรงอาศัยในฤดูหนาว สะสมไขมันด้วยการกินเพิ่มน้ำหนักตัว เน้นกินพืชเป็นอาหารหลัก อายุขัยตามธรรมชาติค่อนข้างยืนยาว และเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ที่มีประชากรเหลือน้อย

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง