
เหมืองทอง หรือ เหมืองทองคำ เป็นสิ่งที่มีมานานหลายพันปีแล้ว ซึ่งในปัจจุบันนี้ ก็มีเทคนิคการขุดเจาะทอง แบบสมัยใหม่เข้ามาเรื่อยๆ ทำให้มีการผลิตทองไปทั่วโลก และยังมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้เราจะพาทุกคน ไปทำความรู้จักกันมากขึ้น
เหมืองทอง เกิดขึ้นเมื่อไหร่ ไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน แต่มีอายุเก่าแก่ที่สุด ซึ่งในอดีตการทำเหมืองทองคำ จากตะกอนลุ่มน้ำ ที่ใช้กระบวนการแยกด้วยมือ เช่น การร่อนทองคำ การขยายตัวของการขุดทองไปยังแร่ ที่ไม่ได้อยู่บนพื้นผิวได้
ซึ่งมีนำไปสู่กระบวนการสกัด ที่ซับซ้อนมากขึ้น อย่างเช่น การทำเหมืองในหลุม และการเกิดไซยาไนด์ของทองคำ ในศตวรรษที่ 20 และ 21 ปริมาณการขุดส่วนใหญ่ กระทำโดยบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม มูลค่าของทองคำ ได้นำไปสู่คนงานเหมืองฝีมือดี รายย่อยหลายล้านคน ในหลายพื้นที่ของซีกโลกใต้
เช่นเดียวกับการทำเหมืองแร่อื่นๆ ปัญหาด้านสิทธิมนุษยชน และสิ่งแวดล้อม ที่เป็นเรื่องปกติ ในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ทองคำ และอาจส่งผลให้เกิดความเลวร้าย ด้านสิ่งแวดล้อมได้ ซึ่งในเหมืองเองก็มีความเสี่ยง ในเรื่องของสุขภาพ และความปลอดภัยน้อย อีกด้วย [1]
การเกิดแร่ทองคำ โดยปกติจะเกิดขึ้นได้ มี 2 ประเภท นั่นก็คือ ปฐมภูมิ และทุติยภูมิ นอกจากนี้ ทองคำนั้นเป็นส่วนของหิน ดิน หรือแม้แต่น้ำทะเล ได้แก่
แหล่งแร่ทองคำแบบปฐมภูมิ ที่เกิดในประเทศไทย ได้แก่
ที่มา: “ประทานบัตร-อาชญาบัตร” คืออะไร [2]
การทำเหมืองแร่ทองคำ โดยทั่วไปมี 2 วิธี คือ การทำเหมืองแบบเปิด และการเหมืองแบบใต้ดิน ซึ่งจะแตกต่างแบบไหน ตามมาดูกันได้เลย
1.เหมืองเปิด
การทำเหมืองแร่ทองคำ แบบเหมืองเปิด ที่เหมาะสำหรับแหล่งแร่ทองคำ ที่อยู่ไม่ลึกจากผิวดินมากสักเท่าไหร่ ซึ่งในการทำเหมืองรูปแบบนี้ จะมีเริ่มจากการเปิดหน้าดิน ลงไปเรื่อยๆ จนถึงจะพบ วิธีนี้จะต้องใช้พื้นที่หน้าเหมืองมาก ถ้าแหล่งแร่อยู่ในระดับลึก หน้าเหมืองก็จะกว้างมากยิ่งขึ้นเท่านั้น เพื่อให้สะดวก และปลอดภัยในการทำเหมือง และการนำแร่ขึ้นมา
สำหรับการทำเหมืองแร่แบบนี้ ต้องใช้เครื่องมือหนัก ไม่ว่าจะเป็น เครื่องเจาะ รถตัก รวมถึงรถขนแร่ขนาดใหญ่ เพราะว่าวิธีนี้ ต้องมีการระเบิด บริเวณหน้าเหมือง เพื่อเข้าถึงแหล่งแร่ และทำเป็นขั้นบันไดวนลงไป หาแหล่งแร่ที่อยู่ลึกลงไป รวมทั้งใช้เป็นเส้นทางลำเลียงแร่ขึ้นมา เพื่อเข้าสู่กระบวนการแต่งแร่ต่อไป
2.เหมืองใต้ดิน
การทำเหมืองแบบดังกล่าว เหมาะสำหรับแหล่ง ที่อยู่ลึกมากจากชั้นดิน การทำเหมืองมีพื้นที่เล็ก โดยเริ่มจากการเปิดหน้าดิน เพื่อเจาะช่องทางสำหรับเครื่องมือหนัก ทำงานเข้าหา หรือทำเป็นอุโมงค์ทางเข้า หรือเส้นทางลงสู่ที่พื้นที่ระดับลึก เพื่อการนำแร่ขึ้นมา
เมื่อถึงแหล่งแร่ในระดับลึก พื้นที่การทำงานจะขยายกว้างออกไป ในทิศทางแนวราบและแนวดิ่ง การทำอุโมงค์ เพื่อเข้าสู่แหล่งแร่โดยทั่วไปมี 3 แบบ คือ อุโมงค์แนวราบ อุโมงค์แนวเอียง และอุโมงค์แนวดิ่ง
รูปปั้นนักบวช Kaneko Jizou หมายถึง เป็นเทพพระเจ้าแห่งความช่วยเหลือ ของคนงานในเหมือง และถูกบันทึกเอาไว้ว่า ในความเชื่อของ “Rokudo Kyusai” ที่เมื่อมีคนภาวนาขอให้ Jizou Bosatu พวกเขาจะได้รับจากพร เช่น ความช่วยเหลือ และผู้ปกครอง เพื่อชีวิตที่ยืนยาว หรือปัดเป่าความชั่วร้ายออกไป รวมถึงการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ
เหมืองทอง เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรม ที่เติบโตอยู่มากที่สุด อีกทั้ง ยังเป็นแหล่งทำเงินที่มูลค่าได้ดี ซึ่งปัจจุบัน ทองคำนั้น ก็ยังเป็นที่ต้องการ ของหลายผู้คนมากมาย และมีราคาตลาดขึ้นลงอยู่เสมอ รวมไปถึง ลงทุนกับทองคำยังไง ก็ยังสามารถทำกำไรได้เรื่อยๆ