
แมวป่า สัตว์ป่านักล่า หากมองจากเงา ช่วงเวลากลางคืน ใครก็อาจคิดว่าเป็นเสือ ผู้อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร แต่หันกลับมามองดี ๆ นั่นคือเจ้าแมวตาแป๋ว ร่างกายสูงใหญ่ แมวป่าที่มีลักษณะคล้ายเสือ หนึ่งในสัตว์ป่า ที่ช่วยให้ระบบนิเวศ ดำเนินไปอย่างราบรื่น และ ช่วยควบคุมประชากร สัตว์ฟันแทะอย่างสมดุล
แมวป่า (Jungle Cat) ถูกเรียกว่า เสือบอง หรือ เสือกระต่าย สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ขนาดกลาง กระจายสายพันธุ์อยู่ในแอฟริกาตอนเหนือ และ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยอาศัยอยู่ตามป่าดิบแล้ง ป่าเต็งรัง และพื้นที่ชุ่มน้ำ ที่มีพืชพรรณอุดมสมบูรณ์ และได้รับการจำแนกสายพันธุ์ 3 ชนิดหลักที่ถูกต้อง ตั้งแต่ ปี ค.ศ. 2017 [1] ได้แก่
แมวป่าขนาดกลาง ขาค่อนข้างเรียวยาว มีความยาวของลำตัว ประมาณ 59 – 76 เซนติเมตร ความสูงเกือบ 36 เซนติเมตร และมีน้ำหนัก 2 – 16 กิโลกรัม โดยมีสีขนส่วนมาก เป็นสีทราย สีน้ำตาลแดง หรือสีเทา ทั้งยังมีสีดำลายจุดเล็ก ๆ ทั่วลำตัว ดวงตาสีเหลืองอำพัน และหางยาว เหมือนกับลายเสือ โดยมีอายุขัยเฉลี่ย 15 ปี
พฤติกรรมโดยทั่วไปของแมวป่า มักออกล่าเหยื่อในเวลากลางวัน และสามารถเดินได้ไกล 3 – 6 กิโลเมตร ในช่วงเวลากลางคืน ชอบอยู่อย่างโดดเดี่ยว ไม่ชอบเข้าสังคม โดยเป็นสัตว์กินเนื้อเป็นหลัก พบว่าชอบกินสัตว์ฟันแทะเป็นอาหาร 95% อย่างเช่น หนูเจอร์บัว กระต่าย ซึ่งเหยื่อมักจะมีน้ำหนัก น้อยกว่า 1 กิโลกรัม
แมวป่าล่าสัตว์ โดยการวิ่งไล่ตามเหยื่อ และการกระโดดสูง (สำหรับการจับนก) ซึ่งมีหูที่ช่วยระบุตำแหน่ง ของเหยื่อได้ชัดเจน นอกจากนี้ ยังใช้ทักษะการปีนป่ายต้นไม้ การว่ายน้ำเร็ว มากถึง 32 กิโลเมตร / ชั่วโมง และสามารถว่ายน้ำได้ไกล 1.5 กิโลเมตร กับการกระโจนลงน้ำ เพื่อจับปลาอีกด้วย
แมวป่าคล้ายเสือ ประเภท สัตว์บก ตระกูลของแมว ที่เป็นสายพันธุ์ต้นแบบ ของแมวบ้าน โดยมีลักษณะเหมือนกับแมวบ้าน แต่ขนาดใหญ่กว่า และน้ำหนักมากกว่า ทั้งยังมีสัญชาตญาณ ความเป็นสัตว์ป่าค่อนข้างสูง พวกมันดำรงชีวิตอย่างไร สำรวจประชากรมากน้อยแค่ไหน ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย
สถานภาพของแมวป่า จัดอยู่ในประเภท บัญชีแดง (IUCN) โดยเป็นสัตว์ที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุด แต่ถึงอย่างไรนั้น แมวป่าในแถบเอเชียส่วนมาก กำลังถูกคุกคาม มาจากหลายสาเหตุ ทั้งแรงกดดันจากมนุษย์ พื้นที่เกษตรกรรม การทำฟาร์มด้วยเครื่องจักร และ มาตรการควบคุมสัตว์ฟันแทะ
ล้วนอาจส่งผล ต่อการสูญพันธุ์ของแมวป่าได้ ซึ่งคนส่วนใหญ่ ขาดการตระหนักรู้ ทำให้แมวป่า ตกเป็นเป้าหมายในการโจมตี เพราะคนมักเข้าใจผิดว่า แมวป่าเป็นสัตว์อันตราย ส่งผลให้เกษตรกรพยายามกำจัด เพื่อปกป้องวัว หรือพื้นที่การเกษตร ซึ่งหากมองผิวเผินแล้ว ก็ค่อนข้างคล้ายกับ ลูกเสือดาวอยู่ไม่น้อย [2]
สำรวจจำนวนประชากรแมวป่า ในแถบเอเชียกลาง ประเมินความหนาแน่น ประมาณ 4 – 15 ตัว / 10 ตารางกิโลเมตร โดยคาดว่ามีประชากร ในประเทศรัสเซีย 500 ตัว และในประเทศเนปาล มากกว่า 10,000 ตัว สำหรับในไทย พบแมวป่าขนาดเล็ก เพียง 2 ชนิด คือ เสือปลา (Fishing Cat) และ แมวดาว (Leopard Cat)
พิกัดพบเห็นมากที่สุด อยู่ในประเทศอินเดีย บังกลาเทศ และปากีสถาน ในแหล่งอาศัยบนภูเขาสูง ที่ความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 3,000 – 3,300 เมตร และมักเจอตามหนองบึง มีพืชพรรณ และพื้นที่ชุ่มน้ำหนาแน่น นอกจากนี้ ยังสามารถพบได้ ในทะเลทราย รวมถึงทุ่งหญ้า แต่ค่อนข้างน้อยกว่า [3]
แมวป่า สัตว์ป่าคล้ายเสือดาว ที่เป็นบรรพบุรุษ ของเหล่าแมวบ้าน คนไทยเรียกกันว่า เสือบอง หรือว่า เสือกระต่าย ซึ่งมีพฤติกรรม การกินเนื้อสัตว์ฟันแทะเป็นหลัก พบมากในทวีปแอฟริกาตอนเหนือ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประชากรในปัจจุบัน มีแนวโน้มลดลง แต่ยังคงเป็นสัตว์ป่า ที่มีความเสี่ยงน้อยมากเช่นกัน