ข้อมูลน่ารู้ แรคคูน นักรักสะอาดและเอาตัวรอดเป็นเลิศ

แรคคูน

แรคคูน เจ้าตัวหนาขนปุกปุย โดนใจทาสหลายคน ด้วยความแสบซน ผสมกับความกวนแสนน่ารัก ตัวใหญ่กว่าแมวเพียงนิดเดียว ดูเหมือนจะเลี้ยงง่าย แต่ห้ามปล่อยออกมาวิ่งเล่น แบบอิสระเด็ดขาด ถึงแม้ว่าจะมีความสามารถ ในการเอาตัวรอดสูง แต่รับรองว่าพวกมัน ไม่เดินกลับบ้าน มาหาคุณเองอย่างแน่นอน

รู้จักกับเจ้า แรคคูน ผู้เอาชีวิตรอดในแหล่งชุมชน

แรคคูน (Raccoon) สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ในอันดับสัตว์กินเนื้อ ของวงศ์แรคคูน มีถิ่นอาศัยอยู่ทางภาคใต้ ของประเทศแคนาดา ประเทศสหรัฐอเมริกา และทางตอนเหนือ ของทวีปอเมริกาใต้ มักพบเจอได้ในป่าผลัดใบ ป่าเบญจพรรณ หรือแหล่งชุมชนเมืองของมนุษย์ ที่มีพื้นที่ชุ่มน้ำ [1]

ช่วงชีวิตประมาณ 10 – 15 ปี ในปัจจุบันเป็นสัตว์ต่างถิ่น พบมากในทวีปยุโรป และถูกนำเข้ามาครั้งแรก ในประเทศเยอรมนี ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1930 โดยมีปริมาณมากกว่า 10,000 ตัว ทั้งยังเป็นสัตว์ที่สามารถปรับตัวเอง ให้เข้ากับสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี

ลักษณะทางกายภาพของ Raccoon

เอกลักษณ์โดดเด่น จากรอยแต้มสีดำรอบดวงตา ตลอดจนถึงแก้ม คล้ายกับหน้ากากโจร และมีหางที่เป็นพวงคาดสีดำ 4 – 10 แถบ ยาวประมาณ 10 นิ้ว มีอุ้งเท้าขนาดเล็กคล้ายมือคน สำหรับหยิบจับได้อย่างถนัด โดยมีความยาวของลำตัว ประมาณ 60 เซนติเมตร มีน้ำหนักตัว ประมาณ 5 – 7 กิโลกรัม

แตกต่างกันไปตามภูมิภาค และสภาพแวดล้อม โดยทั่วไปจะเฉลี่ย ประมาณ 1.8 – 10.4 กิโลกรัม สำหรับตัวเมีย สามารถโตเต็มที่ตอนอายุ 1 ปี และตัวผู้อายุ 2 ปี นอกจากนี้สีขน สามารถเปลี่ยนได้ตามสภาพแวดล้อม ตั้งแต่สีน้ำตาล สีน้ำตาลแดง สีน้ำตาลเหลือง และสีเทา ซึ่งแรคคูนมีเพียงแค่ 1 สายพันธุ์ในโลกเท่านั้น

รายละเอียดนิสัยโดยทั่วไป

นิสัยของแรคคูน จะค่อนข้างมีความซุกซน และชอบสร้างความเสียหาย ทั้งการบุกรุกบ้าน ขุดดิน คุ้ยเศษขยะ รวมถึงการขโมยของ หรือการเปิดตู้เย็นหาอาหาร เป็นต้น แต่ถึงอย่างไร พฤติกรรมปกติที่พบเห็นบ่อยครั้ง จะเป็นการนวดอาหารให้นิ่ม โดยการจุ่มลงน้ำก่อนกิน หรือเรียกได้ว่าเป็นการ ทำให้สะอาดด้วยเช่นกัน

มีพฤติกรรมออกหากิน เวลากลางคืน โดยกินสัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลัง อัตราประมาณ 40% กินพืช 33% และ กินสัตว์มีกระดูกสันหลังอีก 27% เรียกได้ว่า อาจเป็นสัตว์กินแทบทุกอย่างในโลก ซึ่งพฤติกรรมปกติ จะชอบใช้เวลาอยู่บนต้นไม้ ส่วนในตอนกลางวัน จะออกหากินตามเส้นทางพื้นแข็งเดิม ๆ เพื่อไม่ให้ทิ้งรอยเท้า

สำหรับการตั้งท้อง และการออกลูก จะมีฤดูกาลผสมพันธุ์ ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – เดือนมิถุนายน ตัวเมียจะตั้งท้องนานถึง 63 – 65 วัน ออกลูกภายใต้โพรงไม้ ครั้งละประมาณ 4 – 6 ตัว โดยในช่วงฤดูหนาวมีหิมะตก คือ ช่วงที่ขาดแคลนอาหารมากที่สุด จะใช้เป็นช่วงเวลา ของการจำศีลตลอดทั้งฤดูกาล

แรคคูน สัตว์เลี้ยงจอมซนในต่างประเทศ

แรคคูน

เจ้าตัวแรคคูนในปัจจุบัน ถือว่าเป็นสัตว์ป่า ที่คนสามารถเลี้ยงได้ ด้วยความน่ารักแสนซน จึงกลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยม ในต่างประเทศ แน่นอนว่าขึ้นชื่อ ด้านความเฉลียวฉลาด สามารถเอาชีวิตรอดได้ดี ที่หลายคนรู้จักกันในฐานะ “นักป่วนเมือง” ที่นักวิทยาศาสตร์หลายคน ยังต้องยอมแพ้ให้กับ สติปัญญาของพวกมัน

วิธีการเลี้ยงสำหรับมือใหม่

ที่พักอาศัยของแรคคูน ต้องเป็นกรงขนาดใหญ่ มีความแข็งแรง ทนทานอย่างมาก สำหรับการปีนป่าย และการกระโดด โดยกรงที่เหมาะสม ควรมีลักษณะกรงเดี่ยว กว้างขวาง มีแผงกั้นแบ่งออกเป็น 2 ห้อง และควรมีเวลาปล่อยออกมา เล่นด้านนอกกรง เพราะไม่ชอบอยู่ในพื้นที่จำกัดนาน ๆ

Raccoon เป็นสัตว์รักความสะอาด ควรหมั่นทำความสะอาด ร่างกายเป็นประจำ ทั้งกลิ่นกายและการอาบน้ำ โดยเฉพาะการขัดขน ไม่ควรให้มีคราบสกปรก หรือขนเสียทรง เพราะจะทำให้แรคคูน เกิดความกังวลไม่สบายใจ ไม่เป็นตัวของตัวเอง รวมถึงอยู่ไม่นิ่ง มากกว่าเดิมอีกด้วย [2]

อาหารที่เหมาะสมต่อสุขภาพ โดยเป็นสัตว์กินเนื้อ และสามารถกินพืชได้ ควรได้รับสารอาหาร หลากหลายประเภท ทั้งจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สัตว์เลื้อยคลาน สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ปลา ไข่ นก แมลงปีกแข็ง รวมถึงรากพืช เมล็ดพืช ถั่ว และหัวมัน เป็นต้น

ราคาซื้อขาย แรคคูน เท่าไหร่?

ตามธรรมชาติแล้วเจ้าตัว Raccoon เป็นสัตว์ป่าห้ามนำมาเลี้ยง แต่สามารถเลี้ยงได้ หากได้รับใบอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยแหล่งเพาะพันธุ์ ที่มีความน่าเชื่อถือ สำหรับราคาของพ่อพันธุ์ และแม่พันธุ์ที่ดี

จะมีราคาเฉลี่ย 300 – 700 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 11,000 – 25,000 บาทไทย [3] หรือราคาสูงกว่านั้น ขึ้นอยู่กับการเพาะพันธุ์ เกิดเป็นสายพันธุ์หายาก และลักษณะทางกายภาพ

สรุป แรคคูน “Raccoon”

แรคคูน สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ประเภทกินเนื้อ เต็มไปด้วยความฉลาด คล่องแคล่วเป็นเลิศ กระจายพันธุ์ทั่วไปในทวีปอเมริกาเหนือ และทวีปอเมริกากลาง เจ้าแห่งการเอาตัวรอด กับทุกสภาพแวดล้อม หนึ่งในสัตว์เลี้ยงราคาสูง มีความนิยมมากในต่างประเทศ เช่นเดียวกับเจ้า ลิงมาโมเสท

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง