กระต่ายแคระ สัตว์เลี้ยงตัวเล็กตัวน้อย สายพันธุ์จากต่างประเทศ ที่หลายคนถูกหลอกขาย มักได้เป็นลูกกระต่าย แทนที่จะเป็นกระต่ายพันธุ์แคระ หนึ่งในสัตว์เลี้ยงที่คนค่อนข้างนิยม รู้จักกันในชื่อเรียกง่าย ๆ ว่า กระต่าย ND มีที่มาอย่างไร และน่ารักขนาดไหน ทำไมต้องเป็นกระต่ายจิ๋ว ตามมาดูกัน
กระต่ายแคระ กระต่ายสายพันธุ์ยอดนิยม มีขนาดตัวเล็กที่สุดของโลก คือ กระต่ายเนเธอร์แลนด์ดวอฟ (Netherland Dwarf) หรือเรียกกันว่า กระต่าย ND โดยมีน้ำหนัก ของตัวโตเต็มวัย ตั้งแต่ 7 ขีด – 1.15 กิโลกรัม ถ้าเทียบน้ำหนักตัวที่เหมาะสม ควรอยู่ที่ประมาณ 9 ขีดเท่านั้น [1] อายุขัยเฉลี่ยแล้ว 10 – 12 ปี
แหล่งถิ่นกำเนิดมาจาก ประเทศเนเธอร์แลนด์ นิยมเลี้ยงกันอย่างแพร่หลาย ในสหราชอาณาจักร ประเทศสหรัฐอเมริกา และในแถบยุโรป ซึ่งกระต่ายสายพันธุ์นี้ ได้ถูกขนานนามว่าเป็น “อัญมณีแห่งกระต่าย” (Gem of the Fancy) เพราะมีความสวยงาม ผสมกับความน่ารักตัวเล็ก ราวกับเป็นกระต่ายในฝัน ของใครหลายคน
ลักษณะภายนอกที่โดดเด่น ของกระต่าย ND ประกอบไปด้วย โครงสร้างที่ค่อนข้างสมส่วน มีขนาดของหัวกลมใหญ่ และลำตัวมีขนาด 1:2 โดยขนาดใบหูสั้น ประมาณ 1 – 2 นิ้ว มีความหนา ตั้งตรงชิดขนานกัน อยู่บริเวณหัวกระต่าย มีดวงตากลมโตสดใส
รูปร่างตัวเล็กกะทัดรัด ขนต้องสั้นและหนานุ่ม หากลูบย้อนขนจะสามารถคืนตัว ของเส้นขนได้รวดเร็ว นอกจากนั้นยังมีหลากหลายสี มากกว่า 20 สี ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มสีเดียวทั้งตัว อย่างเช่น สีขาวล้วน (ดวงตาสีทับทิม) สีเทา สีครีม หรือกลุ่มเฉดสีแต่ละส่วนไม่เท่ากัน [2]
สำหรับพฤติกรรมและนิสัย โดยทั่วไปของกระต่าย เนเธอร์แลนด์ดวอฟ มักจะเป็นมิตร ไม่มีความดุร้าย มีความกระตือรือร้นสูง คล่องแคล่วว่องไว มีความกระฉับกระเฉง รวมถึงช่างสนใจ สิ่งรอบตัวตลอดเวลา แต่จะใช้เวลาปรับตัว เข้าหาคนอยู่พอสมควร
หากนำมาเลี้ยงในช่วงแรก กระต่ายอาจจะมีความขี้อาย หรือหวาดกลัว ดังนั้นแล้ว จึงต้องใช้เวลาค่อย ๆ เลี้ยง ให้กระต่ายสามารถคุ้นชินกับเจ้าของ และมีปฏิสัมพันธ์กับคน จะทำให้สามารถเข้าสังคมได้ง่ายมากขึ้น เมื่อกระต่ายรู้สึกสบายใจ และปลอดภัย จะเป็นสัตว์ที่อ่อนโยนมาก ๆ
ส่วนข้อควรระวัง ด้านพฤติกรรม หากเกิดอาการกลัว หรือหวาดระแวง อาจมีนิสัยก้าวร้าวเล็กน้อย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม และนิสัยเฉพาะของแต่ละตัว ไม่ควรอุ้มขึ้นมาทันที เพราะอาจต้องใช้เวลาในการปรับตัวก่อนจะโดนอุ้ม ซึ่งหากคนเลี้ยงเอาออกมานอกกรง จะทำให้รู้สึกตื่นเต้น และกระโดดไปมารอบบ้าน
การเลี้ยงกระต่าย นับว่าต้องมีความเอาใจใส่ ด้วยลักษณะนิสัย และพฤติกรรมการใช้ชีวิต ที่แตกต่างกันไปแต่ละสายพันธุ์ ซึ่งแทบไม่ต้องดูแลเป็นพิเศษ แต่ต้องเลี้ยงดูแลอย่างถูกวิธีเท่านั้นเอง แน่นอนว่าหลายคนเลี้ยง เพราะความน่ารัก เป็นกระแสนิยมมาคู่กับ เจ้ากระต่ายสายพันธุ์ Holland Lop เช่นเดียวกัน
วิธีการเลี้ยงกระต่าย ND ควรเลี้ยงแบบอยู่บนพื้นราบ ขนาดกรงที่เหมาะสม ประมาณ 45 x 115 x 35 เซนติเมตร กรงกระต่าย ควรทำจากเหล็กที่แข็งแรง มีระยะห่างจากซี่กรงไม่เกิน 2 เซนติเมตร ซึ่งเหมาะสมที่จะเลี้ยงไว้ในบ้าน เพราะไม่ใช่สายพันธุ์ที่จะอยู่รอดได้ ในพื้นที่กลางแจ้ง
อาหารกระต่าย ต้องประกอบด้วย อาหารเม็ด ผลไม้สด ผัก หรือหญ้าแห้ง (มีส่วนช่วยในระบบย่อยอาหาร ของกระต่ายได้เป็นอย่างดี) ซึ่งอาหารจะแตกต่างกันไปตามช่วงอายุ คนเลี้ยงควรเลือกอาหารที่สมดุล และเหมาะสมต่อร่างกาย เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิด ปัญหาสุขภาพต่าง ๆ
การเลี้ยงที่ควรระวัง ในการอุ้มหรือจับ โดยสัญชาตญาณของกระต่าย จะกลัวความสูงเป็นอย่างมาก แนะนำว่าไม่ควรรวบหู หรือรวบนิ้วเด็ดขาด เพราะเป็นอวัยวะส่วนประสาทสำคัญ และกระต่ายควรมีการออกกำลังกาย ควรออกมาวิ่งเล่นในบ้าน อย่างน้อย 3 ชั่วโมง / วัน เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีมากขึ้น
กระต่าย ND ได้รับการขึ้นทะเบียน เป็นสายพันธุ์ในเนเธอร์แลนด์ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1940 และในอังกฤษปี ค.ศ. 1950 โดยเป็นที่รู้จักอย่างมาก ในสหรัฐอเมริกา จนได้การรับรองสายพันธุ์ในปี ค.ศ. 1969 สำหรับในประเทศไทย มีการนำเข้ามาในปี ค.ศ. 2003 ด้วยสีต่าง ๆ แปลกตาสวยงาม และสีหายาก
ปัจจุบันสามารถซื้อขาย กระต่ายเนเธอร์แลนด์ดวอฟ ได้ในราคา 400 – 1,200 บาท [3] จากร้านจำหน่ายสัตว์เลี้ยง หรือฟาร์มกระต่ายทั่วไป ทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ ซึ่งหากซื้อขายจากระบบเพดดีกรี ของทางสหรัฐอเมริกา จะได้สายพันธุ์ดีที่สุด มีคุณภาพดีกว่า ทางเนเธอร์แลนด์ รวมถึงราคาสูงกว่าด้วย
กระต่ายแคระ สายพันธุ์เนเธอร์แลนด์ดวอฟ เจ้าของฉายา “กระต่ายตัวเล็กที่สุดในโลก” ด้วยน้ำหนักของตัวโตเต็มวัยไม่เกิน 1.15 กิโลกรัม มีสีหลากหลาย อายุยืนยาวกว่ากระต่ายสายพันธุ์ทั่วไป หนึ่งในสัตว์เลี้ยงตัวเล็กเป็นมิตร นิยมเลี้ยงกระต่ายตัวสีขาว ดวงตาสีทับทิม น่ารักไม่แพ้กับเจ้า ค้างคาวขาวฮอนดูรัส เลยทีเดียว