กุ้งเครย์ฟิช สัตว์เลี้ยงสวยงามในตู้ปลา ได้รับความสนใจในช่วงเวลาหนึ่ง ด้วยรูปร่างใหญ่ สีสันสวยงาม หลายคนนิยมนำมาเป็นสัตว์เลี้ยง และยังเป็นเมนูอาหารจานหรู ของใครหลายคน เราพามาทำความรู้จัก กับวิธีการเลี้ยง การจำแนกสายพันธุ์ ราคาขาย และเลี้ยงกับปลาสวยงามได้หรือไม่? คนรักกุ้งควรอ่าน
กุ้งเครย์ฟิช (Crayfish) หรือมีอีกชื่อว่า “ล็อบสเตอร์น้ำจืด” สัตว์น้ำขาปล้อง จำพวกครัสเตเชีย จัดอยู่ในวงศ์ Parastacoidea โดยมีถิ่นกำเนิดอยู่ใน ทวีปอเมริกาเหนือ ทวีปยุโรป และภูมิภาคโอเชียเนีย ซึ่งมีมากกว่า 500 ชนิด มีความหลากหลายทางสีสัน และค้นพบซากดึกดำบรรพ์เครย์ฟิช มายาวนานกว่า 30 ล้านปี [1]
สัตว์น้ำจืดลักษณะรูปร่างใหญ่ อาจมีความยาว ประมาณ 17.5 เซนติเมตร มีเปลือกหนา ก้ามใหญ่โต และแข็งแรง โดยโครงสร้างทางร่างกาย แบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนหัว ส่วนกลาง (ส่วนที่มีขาเดิน) และส่วนท้อง (ส่วนที่มีเนื้อเยอะ) ซึ่งส่วนของหัว กับส่วนกลาง จะเชื่อมติดกันเป็นเนื้อเดียว เรียกว่า Cephalothorax
ร่างกายทั้งตัว ถูกห่อหุ้มด้วยเปลือก ทำหน้าที่ในการปกป้องลำตัว (โดยมีเหงือกสำหรับหายใจ) ส่วนของขา แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ขาเดิน 5 คู่ (คู่แรกเป็นก้าม หยิบจับอาหารหรือต่อสู้) และขาว่ายน้ำ (โบกพัดเอาออกซิเจนเข้าสู่ร่างกาย ในการหายใจสะดวก และโบกพัดอาหารขนาดเล็ก)
การเลี้ยงกุ้งเครย์ฟิช มีด้วยกันหลากหลายสายพันธุ์ และความนิยมแตกต่างกัน ทั้งเรื่องความสวยงาม และการบริโภค โดยแบ่งวงศ์สกุล สำหรับการเลี้ยง ออกเป็น 2 สาย คือ กุ้งสาย P และ กุ้งสาย C ตามรายละเอียด ดังนี้
ที่มา: เลี้ยงกุ้งเครฟิช เริ่มต้นอย่างไร [2]
ข้อมูลสำหรับมือใหม่ หัดเลี้ยงกุ้งก้ามโตเครย์ฟิช เป็นได้ทั้งสัตว์เลี้ยงสวยงาม และสำหรับการเพาะพันธุ์ โดยมีวิธีการเลี้ยงอย่างถูกต้อง รวบรวมมาให้ทั้งหมด เลี้ยงอย่างไรให้ไม่ตาย? เลี้ยงแบบไหนสุขภาพดี? รวมถึงรายละเอียดราคาขาย ทั้งในไทยและต่างประเทศ
ภาชนะและอุปกรณ์การเลี้ยง เป็นตู้ปลา หรืออ่างบัวขนาดเล็ก ควรให้อยู่ในอุณหภูมิต่ำ อาจใช้เครื่องทำความเย็น และเครื่องกรองน้ำ เพื่อปรับสภาพแวดล้อม ต่อการเลี้ยงในเมืองไทยได้ง่ายขึ้น แนะนำอุณหภูมิของน้ำ ประมาณ 23 – 28 องศาเซลเซียส โดยมีค่า pH 7.5 – 8.5 เหมาะสมที่สุด
อาหารของกุ้ง เป็นสัตว์กินซาก ทั้งพืชและสัตว์ นิยมให้อาหารปลาสำเร็จรูป หรืออาหารมีชีวิต อย่างเช่น หนอนแดง เนื้อกุ้งต้มสุก เศษเนื้อ นอกจากนั้น เครย์ฟิชมีนิสัยค่อนข้างดุร้าย ควรแยกเลี้ยงตู้ละ 1 ตัว หรือเลี้ยงร่วมกันได้ แต่ต้องมีพื้นที่กว้างมากพอ สำหรับการหลบซ่อน เพื่อไม่ให้แย่งอาหาร และการต่อสู้กันเอง
การดูแลกุ้งลอกคราบ ควรใส่ใจเป็นพิเศษ และระวังเป็นอย่างมาก เพราะคือช่วงที่กุ้งอ่อนแอที่สุด ควรจับแยกออกจากกัน เพราะอาจโดนตัวที่แข็งแรงกว่า จับกินกันเองได้ง่าย หรืออาจต่อสู้กันจนก้ามเบี้ยว ทั้งยังควรเสริมแร่ธาตุ ด้วยการเติมเกลือ ซึ่งจำเป็นต่อการลอกคราบ สร้างเปลือกใหม่ด้วยเช่นกัน
เครย์ฟิชเป็นสัตว์ที่อยู่กับคน มาตั้งแต่สมัยอดีต นิยมทำเป็นอาหารราคาแพง โดยเฉพาะชนิด Cherax Quadricarinatus ทางงานวิจัยค้นพบว่า พวกมันไม่สามารถตอบสนอง ต่อการเจ็บปวดได้ ทั้งยังปล่อยฮอร์โมน ของความเครียดออกมา ส่งผลทำให้กล้ามเนื้อมีรสเปรี้ยว สามารถนำไปปรุงอาหารได้
สำหรับในปัจจุบัน นิยมนำมาเป็นสัตว์เลี้ยง เพื่อความสวยงาม โดยเฉพาะกุ้งชนิด Procambarus Clarkii เรียกว่ากุ้งแดง หรือกุ้งญี่ปุ่น เพราะมีรูปร่างสวยสง่า ก้ามโตบึกบึน ท่าทางแข็งแรง และมีหลายสีอีกด้วย ทำให้หลายประเทศ เกิดความสนใจ เพาะพันธุ์เพื่อเลี้ยงสวยงามกันมากขึ้น
ราคาขายเครย์ฟิช ในประเทศไทย ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ขนาดตัว และสีสัน ส่วนใหญ่ราคา 700 – 1,200 บาท / กิโลกรัม สำหรับทำอาหาร และเลี้ยงสวยงาม ส่วนราคาเครย์ฟิช ในประเทศจีน มณฑลเสฉวน ประกอบธุรกิจฟาร์มกุ้ง และร้านอาหาร มากเป็นอันดับ 3 ของจีน ราคาประมาณ 400 – 1,000 บาท / กิโลกรัม [3]
กุ้งเครย์ฟิช กุ้งก้ามโตสีสันสวยงาม จากทวีปอเมริกาเหนือ หนึ่งในสัตว์เลี้ยงสวยงาม และนิยมกินเป็นอาหาร สามารถเลี้ยงง่ายไม่ยาก แต่ต้องดูแลเป็นบางช่วง มีราคาถูกจนถึงราคาแพง ทั้งยังเป็นสัตว์กินเนื้อดุร้าย ก้ามใหญ่แข็งแรง จึงไม่แนะนำให้เลี้ยง ร่วมกับปลาสวยงามทุกชนิด อย่างเช่นเจ้า ปลาเงินปลาทอง