ตัวตุ่น มีใครเคยเห็นเจ้าตุ่นกันบ้างหรือไม่? แน่นอนว่าส่วนใหญ่ มักตอบกันว่าไม่ เพราะเจ้าตัวเล็กอ้วนกลม มักอาศัยอยู่ในโพรงใต้ดินลึก น้อยครั้งมากที่จะขึ้นมา สูดอากาศบนดิน พวกมันเป็นสัตว์ที่หายใจใต้ดินได้แบบสบาย ๆ ชอบกินแมลง หรือสัตว์เล็กเป็นอาหาร ทั้งยังเลี้ยงเพื่อเศรษฐกิจได้อีกด้วย
ตัวตุ่น (Mole) สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก จัดอยู่ในวงศ์ของตุ่นกินแมลง Talpidae อาศัยอยู่ในโพรงใต้ดิน กระจายสายพันธุ์อยู่ทั่วโลก แต่พบส่วนมาก ในทวีปอเมริกาเหนือ ทวีปยุโรป และทวีปเอเชีย สามารถมีอายุขัยเฉลี่ย 3 – 6 ปี และพบในประเทศไทย เพียงชนิดเดียวเท่านั้น คือ ตุ่นโคลส [1]
ตุ่นมีลักษณะคล้ายกับ หนูตะเภา แต่ไม่ได้อยู่ในอันดับสัตว์ฟันแทะ โดยมีขนอ่อนนุ่ม ขนสีน้ำตาลเข้ม สีเทา หรือสีดำทั้งตัว หางสั้น กรงเล็บแข็งแรง มีอุ้งเท้าแบนกว้าง และนิ้วมือเหมือนกับ แพนด้ายักษ์ ซึ่งแตกต่างจากนิ้วของหนูทั่วไป ทั้งยังมีดวงตากับหูขนาดเล็กมาก ถูกปกคลุมซ่อนอยู่ใต้ขน จนแทบมองไม่เห็น
ขนาดของตัวตุ่น ค่อนข้างมีขนาดตัวเล็ก โดยทั่วไปจะมีความยาวลำตัว 11.3 – 15.9 เซนติเมตร หางยาวประมาณ 2.5 – 4 เซนติเมตร และน้ำหนักเพียง 72 – 128 กรัม แต่หากเป็นสายพันธุ์อเมริกา สามารถมีความยาวลำตัว 17.6 เซนติเมตร และมีน้ำหนักมากถึง 115 กรัม
การใช้ชีวิตของตุ่น เป็นสัตว์ที่ชอบอยู่แบบโดดเดี่ยว จะรวมตัวกันเมื่อถึงช่วงผสมพันธุ์เท่านั้น โดยแต่ละตัวมีอาณาเขตเป็นของตัวเอง แต่อาจซ้อนทับกันได้ ซึ่งพวกมันมักจะหลีกเลี่ยงการต่อสู้ แต่หากต้องเผชิญหน้ากัน อย่างเช่น การต่อสู้แย่งตัวเมีย ตัวผู้จะเป็นฝ่ายที่สู้อย่างดุเดือดมากที่สุด
แหล่งอาศัยอยู่ในโพรงใต้ดินตลอดเวลา มีโอกาสน้อยมาก ที่จะขึ้นมาบนพื้นดิน โดยมีดวงตากับหูที่เล็กมาก จึงไม่มีประโยชน์ในการใช้งาน เพื่อป้องกันไม่ให้ดินเข้าตอนขุด โดยในโพรงใต้ดินจะเป็นทางยาว ความลึกประมาณ 7 – 15 เซนติเมตร ถูกแบ่งออกเป็น 2 ทาง และมีทางเชื่อมเล็ก ๆ เป็นระยะในจุดต่าง ๆ
อาหารของตุ่น กินไส้เดือนดิน หนอน หอยทาก และพืชประเภทหัว อย่างมันและแห้ว โดยปริมาณอาหารต่อวัน กินได้มากถึง 70 – 100% ของน้ำหนักตัว พวกมันจึงอดอาหารได้นาน และในฤดูแล้ง ตุ่นจะสะสมเสบียง ที่มีหนอนมากกว่า 100 ตัว ซึ่งหัวของหนอนจะถูกกัดขาด แต่ยังมีชีวิตอยู่ และไม่สามารถหนีไปไหนได้
ตามธรรมชาติของตุ่นเป็น สัตว์เขตร้อน แต่สามารถปรับตัวอยู่ได้ กับสภาพภูมิอากาศต่าง ๆ เนื่องจากว่าชีวิตส่วนใหญ่ อาศัยอยู่ในใต้ดินที่มีความลึก ทั้งยังมีแหล่งอาหารใต้ดิน พวกมันเป็นสัตว์ป่าที่พบเห็นได้ยาก มีประชากรมั่นคง แต่มักสร้างปัญหาให้กับเกษตรกร และชอบอาศัยอยู่ใกล้ กับบ้านเรือนของคนอีกด้วย
ที่มา: Moles [2]
สำหรับในไทย ตุ่นสามารถเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงได้ แต่ส่วนมากไม่ค่อยนิยม เพราะตุ่นมักสร้างโทษ มากกว่าให้ประโยชน์ (แตกต่างจากตัวอ้นที่เลี้ยงได้ และหลายคนมักเข้าใจผิด คิดว่าเป็นตุ่น) ในปัจจุบันตุ่นสามารถเป็นสัตว์เลี้ยง เศรษฐกิจชนิดใหม่ โดยเป็นที่สนใจของเกษตรกร เพราะพวกมันชอบเข้าไปทำลายพืชในไร่
การเลี้ยงตุ่นเพื่อค้าขาย เหมาะสมที่จะเลี้ยงในบ่อปูน ความหนาซ้อนกัน 2 ชั้น ไม่ควรเลี้ยงในโพรงดิน เพราะจะขุดดินหนี โดยตัวตุ่นมีระบบเผาผลาญค่อนข้างดีมาก จึงต้องเลี้ยงให้กินอิ่ม พร้อมเป็นพ่อแม่พันธุ์ เมื่ออายุครบ 8 เดือน – 1 ปี ซึ่งสามารถออกลูกได้ประมาณ 5 – 8 ตัว / ครอก
ราคาซื้อขายตัวตุ่น มีตั้งแต่ 1,000 – 10,000 บาท / คู่ โดยต่างประเทศ มักรับซื้อในราคาค่อนข้างสูง เฉลี่ยราคาประมาณ 5,000 บาท / คู่ โดยเฉพาะประเทศออสเตรเลีย ที่มีประชากรตัวตุ่นขาดแคลนมาก ทำให้มีความต้องการเพิ่มขึ้น เพื่อนำมาเป็นสัตว์เลี้ยงเศรษฐกิจ ทั้งนี้พวกมันยังมีความเชื่อง อย่างมากอีกด้วย [3]
ตัวตุ่น สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ประเภทตุ่นกินแมลง แหล่งอาศัยในโพรงใต้ดินตลอดเวลา กระจายสายพันธุ์อยู่ทั่วโลก ลักษณะตัวเล็ก แต่อุ้งมือใหญ่ มีกรงเล็บแข็งแรงสำหรับขุดดิน กินสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง และพืชมีหัวเป็นอาหาร สามารถเป็นสัตว์เลี้ยงเศรษฐกิจได้