Menu
นกกระตั้ว นกแก้วสวยงาม สีขาวเป็นเอกลักษณ์ และหงอนบนหัว โดดเด่นกว่าใคร นกอีกหนึ่งสายพันธุ์ ที่คนนิยมเลี้ยงกันมากในปัจจุบัน เนื่องจากว่าเลี้ยงง่าย พูดเก่ง นิสัยร่าเริง ขี้แกล้ง และชอบอยู่ใกล้ชิดกับเจ้าของ ต้องเลี้ยงอย่างไร มีพฤติกรรมแบบไหน และการซื้อขายภายในประเทศ
นกกระตั้ว (Cockatoo) หรืออีกชื่อเรียกว่า “นกคอกคาทู” นกแก้วขนาดใหญ่ สายพันธุ์ในวงศ์ Cacatuidae จัดอยู่ในอันดับ นกแก้วพันธุ์แท้ และ นกแก้วนิวซีแลนด์ โดยแหล่งอาศัยส่วนมาก อยู่ในแถบออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และบางหมู่เกาะ ในมหาสมุทรแปซิฟิก ประกอบด้วย 44 ชนิด แตกต่างกันในปัจจุบัน
ต้นกำเนิดนกคอกคาทู มีมานานตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ซึ่งถูกอธิบายวงศ์สกุล โดยนักธรรมชาติวิทยา ชาวอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1840 และจากบันทึกฟอสซิล ที่มีมากกว่านกทั่วไป โดยเป็นนกคอกคาทูโบราณชนิดเดียว มีชีวิตมาแล้วกว่า 16 – 23 ล้านปีก่อน ซึ่งมีความคล้ายกับ นกคอเรลลาตะวันตก และ นกกาลา [1]
ลักษณะของกระตั้ว เป็นนกประเภทปากขอ ส่วนใหญ่จะมีขนสีขาวนวล บางชนิดมีสีเหลืองอ่อน ผสมเล็กน้อย ซึ่งมีสีสันน้อยกว่า นกแก้วชนิดอื่น แต่มีขนาดใหญ่กว่ามาก โดดเด่นด้วยหงอน สีเหลืองสดใส จะงอยปากโค้งมน โดยมีความยาวลำตัว 30 – 60 เซนติเมตร และน้ำหนัก 300 – 1,200 กรัม
ส่วนขาค่อนข้างสั้น มีกรงเล็บแข็งแรง แต่เดินเชื่องช้า โดยมักใช้จะงอยปาก ช่วยพยุงการเดินเมื่อต้องปีนป่าย โดยทั่วไปจะมีปีกที่ยาว และกว้างมาก สำหรับใช้ในการบินรวดเร็ว ซึ่งสามารถบินได้ ประมาณ 70 กิโลเมตร / ชั่วโมง นอกจากนี้ ยังเป็นนกที่มีนิสัยร่าเริง ขี้เล่น ฉลาด ค่อนข้างซน และชอบใกล้ชิดเจ้าของอีกด้วย
การพูดและการส่งเสียง เป็นความสามารถระดับที่ดี เพราะสามารถพูดได้คล่อง เลียนแบบเสียงสัตว์ได้หลายชนิด มากกว่า 15 แบบ อย่างเช่น เสียงแมวร้อง เสียงสุนัขเห่า หรือเสียงคนพูด จะเป็นลักษณะเสียงดัง แสดงถึงอารมณ์ หรือรวมถึงการเตือนภัย ของนกกระตั้วด้วยกันเอง โดยเริ่มหัดพูดได้ตั้งแต่ อายุครบ 3 เดือน
ถึงแม้ว่ากระตั้ว คือ สัตว์ปีกสวยงาม ที่พูดเลียนแบบเสียงได้ยอดเยี่ยม แต่พวกมันไม่สามารถ เข้าใจความหมายได้ เป็นเพียงแค่การทำตามเท่านั้น ซึ่งจะชอบช่างพูดช่างเจรจา ในโทนเสียงที่ค่อนข้างดังอย่างมาก โดยเฉพาะช่วงที่ต้องการ เรียกร้องความสนใจจากเจ้าของ หรือช่วงเช้าตรู่และช่วงค่ำ
ทำความเข้าใจลักษณะ พฤติกรรมใช้ชีวิต การกินอาหาร แหล่งที่อยู่อาศัย รวมถึงราคาซื้อขาย เพื่อเป็นตัวช่วยตัดสินใจก่อนเลี้ยง นกสวยงาม เนื่องจากว่ากระตั้ว เป็นสัตว์ฉลาด สามารถเข้ากับคนได้ง่าย แต่ค่อนข้างเสียงดัง จึงเหมาะกับคนที่พร้อม ไม่ติดปัญหาด้านการเลี้ยง และการครอบครอง ตามถูกกฎหมาย
กรงอาศัยของกระตั้ว แนะนำเป็นวัสดุแข็งแรงทนทาน อย่างเช่น กรงเหล็กดัด หรือกรงสเตนเลส มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ลักษณะกรงแนวนอน เพื่อให้มีพื้นที่บิน ปีนขึ้นลงกิ่งไม้ ขนาดอย่างน้อย 60 x 90 x 120 cm. โดยต้องมีระยะห่างของซี่กรง ประมาณ 1.2 – 1.5 cm.
อาหารกระตั้ว หากอยู่ในป่าตามธรรมชาติ พวกมันจะเลือกกินถั่ว และเมล็ดพืชเป็นหลัก แต่ถ้าหากเป็นสัตว์เลี้ยงแล้ว แนะนำอาหารเม็ดเป็นหลัก ปริมาณ 75% พร้อมเสริมด้วยผัก ผลไม้สด และเมล็ดพืช ในปริมาณ 25% และไม่ควรกินเมล็ดพืชมากเกินไป เพราะมีไขมันสูง อาจส่งเสียต่อสุขภาพได้
การออกกำลังกาย ต้องมีของเล่นไว้กัดแทะ เพื่อฝึกฝนการเคี้ยว ควรเป็นของเล่นธรรมชาติ จากไม้เนื้ออ่อนเท่านั้น ทั้งยังควรพาไปออกกำลังกาย นอกกรงอย่างน้อย 3 – 5 ชั่วโมง / วัน เพื่อให้มีปฏิสัมพันธ์กับเจ้าของมากขึ้น ซึ่งนกเลี้ยงสามารถมีอายุขัย ได้นานถึง 60 – 80 ปี ในขณะที่นกในป่า มีอายุขัยเพียง 20 – 30 ปี [2]
หากอยากเลี้ยงเจ้านก กระตั้ว สำหรับในประเทศไทย จำเป็นต้องอยู่ในข้อตกลงของ องค์กรจัดการพันธุ์พืชและสัตว์ป่าทั่วโลก โดยการติดแถบขานก เพื่อระบุว่าเป็นสัตว์เลี้ยงถูกกฎหมาย ทั้งยังบ่งบอกถึงกรรมสิทธิ์การครอบครองได้ ซึ่งสัญญาการซื้อขาย ต้องมีเอกสารรายการซื้อขาย และข้อมูลนกอย่างครบถ้วน
สำหรับราคาลูกนกกระตั้ว เริ่มต้นประมาณ 15,000 บาทขึ้นไป หรือหากเป็นนกกระตั้วสีขาว จะมีราคาสูงประมาณ 40,000 บาทขึ้นไป [3] โดยกระตั้วในไทยนิยมเลี้ยง จะเป็นสายพันธุ์ กระตั้วมอลลัคคัน (Moluccan Cockatoo), กระตั้วอัมเบลล่า (Umbrella Cockatoo) และ กระตั้วหงอนเหลือง (Sulphur Crested Cockatoo)
นกกระตั้ว นกแก้วขนาดใหญ่สีขาว หงอนเหลือง สัตว์เลี้ยงเพื่อความสวยงาม สามารถดูแลได้ง่าย แต่ต้องการเวลาเอาใจใส่ และการมีปฏิสัมพันธ์เป็นพิเศษ ทั้งยังมีราคาค่อนข้างสูง เหมาะกับคนที่มีประสบการณ์ เข้าใจพฤติกรรม สำหรับการเลี้ยง กระตั้วทุกสายพันธุ์ รับรองไม่มีคำว่าเหงาแน่นอน
