Menu
นกคีรีบูน เจ้าของฉายา “King of Songsters” สัตว์เลี้ยงน่ารัก สุดยอดนักร้องเพลงเสียงไพเราะ ได้รับความนิยมอย่างมาก สำหรับคนเลี้ยงนก ด้วยขนาดตัวที่เล็กจิ๋ว ร้องเพลงสากลได้ พาทุกคนมารู้จักกันให้มากขึ้น กับเจ้านกสีเหลืองสดใส น่าสนใจขนาดไหนมาติดตามกัน
นกคีรีบูน (Canaries) หรือชื่อเรียกทางการว่า นกคีรีบูนแอตแลนติก (Serinus Canaria, Atlantic Canary) เป็นนกขนาดเล็ก จัดอยู่ในวงศ์ Fringillidae ของ นกฟินซ์เจ็ดสี โดยแท้จริง มีถิ่นฐานกำเนิดใน หมู่เกาะคานารี ประเทศสเปน หมู่เกาะอะซอเรส และ หมู่เกาะมาเดรา ของประเทศโปรตุเกส
พบการกระจายสายพันธุ์ ตามแหล่งธรรมชาติ ตั้งแต่เขตป่าสน ป่าลอเรล (ป่ากึ่งเขตร้อน มีความชื้นสูง) และ พื้นที่เนินทราย สามารถพบได้บ่อย โดยเฉพาะพื้นที่กึ่งเปิด มีต้นไม้ขนาดเล็ก ทั้งสวนผลไม้ สวนสาธารณะ หรือป่าละเมาะ โดยมีสายพันธุ์ และสีสันค่อนข้างหลากหลาย [1] อายุขัยประมาณ 5 – 15 ปี
นกคีรีบูนแอตแลนติก ลักษณะภายนอก เป็นสีเหลืองสดใส โดยตัวผู้ส่วนใหญ่ จะมีหัวสีเหลืองแกมเขียว ส่วนของใบหน้า จะมีสีเหลืองสว่างกว่า สำหรับท้องส่วนล่าง ขนใต้หาง จะมีสีขาว หรือแถบสีเข้มด้านข้าง ส่วนบนลำตัว มีเส้นสีเข้มเด่นชัด ออกสีเทาแกมเขียว และบริเวณก้น เป็นสีเหลืองหม่น
สำหรับตัวเมีย ในส่วนต่าง ๆ จะค่อนข้างมีสีเข้มกว่า และส่วนล่าง จะมีสีเหลืองน้อยกว่ามาก โดยรวมแล้วความยาวของลำตัว ประมาณ 10 – 12 เซนติเมตร ปีกกว้าง 21 – 23.7 เซนติเมตร และน้ำหนักตัว 8.4 – 24.3 กรัม หรือเฉลี่ยประมาณ 15 กรัม ซึ่งมีขนาดใหญ่และยาวกว่า 10% หากเทียบกับนกเซริน
คีรีบูนมีนิสัยตามธรรมชาติ ร่าเริงแจ่มใส ฉลาดแสนรู้ รักความอิสระ ชอบเกาะอยู่บนคอนไม้ตลอดเวลา ไม่ชอบอยู่ร่วมกับคีรีบูนตัวอื่น หวงอาณาเขต แต่สามารถเข้ากับคนได้ดี สามารถฝึกฝนให้เชื่องได้ ทั้งยังมีเอกลักษณ์โดดเด่น คือ ชอบการร้องเพลงไพเราะ จนได้รับฉายาว่า “ราชาแห่งเสียงเพลง”
โดยปกติแล้วคีรีบูนตัวผู้ จะมีเสียงร้องไพเราะกว่าตัวเมีย สามารถเริ่มฝึกร้องเพลงได้ ตั้งแต่อายุ 6 เดือน นิยมเป็นเพลงร้องง่าย แนวเพลงสากล อย่างเช่น Waterslager, Russian Singer, American Singe, German Roller และ Spanish Timbrado เป็นต้น แนะนำให้เจ้าของปรึกษาผู้ขาย ว่าตัวไหนฝึกร้องเพลงได้ก่อนซื้อ
สำหรับการสืบพันธุ์ จะเริ่มผสมพันธุ์และวางไข่ ในช่วงเดือนมีนาคม – เดือนตุลาคม โดยวางไข่จำนวน 3 -5 ฟอง / ครั้ง หรืออาจมากกว่านั้น ประมาณ 6 – 7 ฟอง ซึ่งไข่จะถูกฟักเป็นระยะเวลา 13 – 14 วัน และพร้อมออกจากรัง หลังจากผ่านไปเป็นเวลา 14 – 21 วัน
คีรีบูนนับว่าเป็นหนึ่งในนก ที่ได้รับความสนใจ ของคนรักนกพอสมควร ก่อนเลี้ยงควรศึกษาข้อมูลสายพันธุ์ ที่สามารถเลี้ยงได้อย่างถูกกฎหมาย โดยห้ามซื้อขายนก ดักจับจากป่าธรรมชาติ หากซื้อมาแล้วควรเลี้ยงอย่างไร การดูแลปัญหาสุขภาพ รวมถึงข้อดีและข้อเสียของการเลี้ยง
แน่นอนว่านกคีรีบูน เป็นสัตว์รักความอิสระ ชอบความเป็นส่วนตัว จึงเหมาะกับการเลี้ยงเพียงตัวเดียว โดยสถานที่พักอาศัย แนะนำเป็นกรงขนาดใหญ่ เน้นกรงกว้างยาว ความสูงประมาณ 16 นิ้ว ความกว้าง 30 นิ้ว และควรมีซี่กรงห่างประมาณ 1 เซนติเมตร เพื่อมีพื้นที่สำหรับการบิน โดยมีคอนไม้อย่างน้อย 2 คอน
อาหารนก ต้องการอาหารที่หลากหลาย ทั้งเมล็ดพืช ผลไม้ ผักสด ผักใบเขียว และอาหารสำเร็จรูป โดยอาหารที่แนะนำสามารถกินได้ คือ ผักเคล บรอกโคลี แอปเปิล องุ่น ส้ม กล้วย เมลอน ถั่วลันเตา และ ดอกแดนดิไลออน เป็นต้น และควรมีน้ำสะอาดตลอดเวลา
สุขภาพและการออกกำลังกาย คีรีบูนค่อนข้างอ่อนไหวต่อการติดเชื้อ และปอดบอบบางมาก มักมีอาการผิดปกติ หรือเกิดโรคได้ง่าย อย่างเช่น โรคระบบทางเดินหายใจ โรคไรนก โรคอีสุกอีใส จึงเหมาะแก่การเลี้ยงไว้ในบ้าน และปล่อยให้บินเล่น ในกรงหรือในบ้าน ประมาณ 30 นาที / วัน [2]
สำหรับราคาของเจ้านก คีรีบูน แตกต่างกันตามสายพันธุ์ และสีสันต่าง ๆ โดยจะมีราคาขาย เริ่มต้นตั้งแต่ 2,500 – 6,000 บาท / ตัว ซึ่งจัดว่าเป็นนกเลี้ยงง่าย สามารถหาซื้อได้ทั่วไป ตามร้านจำหน่ายสัตว์เลี้ยง และฟาร์มเพาะพันธุ์ต่าง ๆ ทั้งในประเทศไทย รวมถึงนำเข้ามาจากต่างประเทศ [3]
ข้อดีการเลี้ยงนก คีรีบูนแอตแลนติก : เหมาะอย่างมากสำหรับมือใหม่ เลี้ยงง่ายในบ้านหรือคอนโด ไม่ต้องการการดูแลเอาใจมาก ฝึกร้องเพลงได้ และสามารถบินมาหาตามคำสั่งได้ แต่จะไม่ค่อยชอบเกาะมือ เหมือนกับนกแก้วทั่วไป ทั้งยังสามารถเลี้ยงไว้ เพื่อการผสมพันธุ์ได้อีกด้วย
ข้อเสียการเลี้ยงนก คีรีบูนแอตแลนติก : ไม่ใช่นกที่สามารถจับได้เอง ตามแหล่งธรรมชาติ เป็นสายพันธุ์นกเลี้ยงที่ค่อนข้างมีน้อย ต้องการพื้นที่ส่วนตัวสูง ซึ่งไม่ชอบอยู่ร่วมกับ นกตัวอื่นเป็นอย่างมาก ทั้งยังมีอัตราการเกิดโรคต่าง ๆ ค่อนข้างสูง จึงไม่เหมาะในการเลี้ยงนอกบ้าน
นกคีรีบูน ราชาแห่งเสียงเพลงไพเราะ หนึ่งในสัตว์เลี้ยงน่ารัก แถมยังฉลาดแสนรู้ สายพันธุ์ที่มีสีสันสดใส ตัวเล็กจิ๋วเลี้ยงง่าย สามารถเลี้ยงได้ในพื้นที่ไม่มาก ภายในบ้านหรือคอนโด เหมาะกับมือใหม่หัดเลี้ยงนก และมั่นใจได้เลยว่าเสียงร้องเพลงนั้น จะไม่ไปรบกวนเจ้าของตอนนอน หรือคนอื่นอย่างแน่นอน
