คู่มือดูแล นกเลิฟเบิร์ด ราชินีนกเล็กสีสันงดงาม

นกเลิฟเบิร์ด

นกเลิฟเบิร์ด คู่หูตัวเล็กน่ารัก ที่หลายคนนิยมเลี้ยง และรู้จักกันเป็นอย่างดี ทั้งยังเป็นตัวแทนของความรัก การดูแลเอาใจใส่กันและกัน สีสันสวยงาม มีหลากหลายสายพันธุ์ทั่วโลก สามารถนำมาเลี้ยง เป็นเพื่อนชวนคุยได้ดี จะมีความแตกต่างจาก นกแก้วสายพันธุ์อื่นอย่างไร มาหาคำตอบกัน

ความเป็นมา นกเลิฟเบิร์ด แห่งแอฟริกา

นกเลิฟเบิร์ด (Lovebird) นกแก้วขนาดเล็ก หลากหลายสีสัน ในวงศ์ของ Psittaculidae จัดอยู่ในกลุ่มนกโลกเก่า ล้วนมีแหล่งกำเนิดมาจาก ทวีปแอฟริกา และในเกาะมาดากัสการ์ บริเวณแถบอบอุ่นถึงเขตร้อน นิยมเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยง และเพาะพันธุ์เป็นสีสันต่าง ๆ มีอายุขัยโดยประมาณ 10 – 12 ปี [1]

การนำเลิฟเบิร์ด มาเลี้ยงเป็นครั้งแรก เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1840 ถูกเรียกกันว่า “Little Parrot” โดยชาวแอฟริกัน เป็นกลุ่มแพร่กระจายการเลี้ยง เข้ามายังทวีปยุโรป และด้วยพฤติกรรม ที่เป็นเอกลักษณ์ของนก คือชอบอยู่เป็นคู่ และดูแลกันตลอดเวลาเป็นอย่างดี ทำให้ได้รับการขนานนามว่า “Lovebird” นับแต่นั้นมา

คำอธิบายลักษณะและนิสัยทั่วไป

นกแก้วเลิฟเบิร์ด มีลักษณะของลำตัว ยาวประมาณ 5 – 7 inch ปีกกว้างได้สูงสุดถึง 9 inch และมีน้ำหนัก 40 – 60 กรัม นับว่าเป็นนกแก้วเล็กชนิดหนึ่ง รูปร่างค่อนข้างอ้วนกลม หางสั้น จะงอยปากแหลม มีสีสันหลากหลาย ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ที่เกิดจากธรรมชาติ และการผสมพันธุ์แบบเลือกสรร

นิสัยโดยทั่วไป ช่างพูดช่างเจรจา ชอบผิวปากทั้งวัน ชอบการสำรวจสิ่งแวดล้อม ค่อนข้างซุกซน กระตือรือร้น เอาใจเจ้าของเก่ง สามารถทำตามคำสั่งสอนได้ง่าย โดยเป็นสัตว์เลือกคู่ครองเดียว เพื่ออยู่เคียงข้างกันตลอดช่วงชีวิต มักอยู่รวมกันเป็นฝูงตอนโตเต็มวัย และสามารถทนทาน ต่ออากาศร้อนได้ดี

การจำแนกสายพันธุ์ นกเลิฟเบิร์ด

เลิฟเบิร์ด ได้รับการแนะนำโดยนักธรรมชาติวิทยา ชาวอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1836 ประกอบด้วย 9 สายพันธุ์ ลักษณะทางกายภาพคล้ายกัน แตกต่างกันแต่ละสี ดังต่อไปนี้

  • Peach Faced (Roseicollis) : นกเลิฟเบิร์ดหน้าพีช ลำตัวยาวประมาณ 17 – 18 เซนติเมตร ส่วนมากเป็นสีเขียวผสมสีชมพู และมีขนบริเวณก้นเป็นสีน้ำเงิน พิกัดในทวีปแอฟริกาตะวันตกเฉียงใต้
  • Mask (Personatus) : นกเลิฟเบิร์ดคอเหลือง หรือ นกเลิฟเบิร์ดหน้ากาก ความยาวลำตัว 14 เซนติเมตร หัวเป็นสีดำชัดเจน ส่วนคอและอกเป็นสีเหลือง ด้านหลังเป็นสีเขียวสด มีขนหางสีฟ้า พิกัดพบเจอในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของประเทศแทนซาเนีย
  • Fischer’s (Fischeri) : นกเลิฟเบิร์ดของฟิสเชอร์ ขนาดตัวยาว 14 เซนติเมตร ขนลำตัวเป็นสีเขียว โดยมีส่วนหัวเป็นสีส้ม ปากสีแดงสด หลังและสะโพกสีฟ้า พิกัดพบเห็นทางใต้ และทางตะวันออกเฉียงเหนือ ในทะเลสาบวิกตอเรีย ตอนเหนือของประเทศแทนซาเนีย
  • Nyasa (Lilianae) : นกเลิฟเบิร์ดของลิเลียน ขนาดลำตัวยาว 13 ซม. ส่วนมากขนเป็นสีเขียว รวมถึงหลังไปจนถึงก้นเป็นสีเขียว ส่วนหัวเป็นสีส้ม และปากสีแดง พิกัดที่อยู่ในประเทศมาลาวี
  • Black Cheeked (Nigrigenis) : นกเลิฟเบิร์ดแก้มดำ ความยาวของลำตัว 14 ซม. สีขนส่วนใหญ่เป็นสีเขียว มีแก้มและคอเป็นสีน้ำตาลดำ บริเวณใบหน้าสีน้ำตาลแดง พิกัดแหล่งอาศัยในประเทศแซมเบีย
  • Madagascar (Canus) : นกเลิฟเบิร์ดหัวเทา หรือเรียกว่า นกเลิฟเบิร์ดมาดากัสการ์ ขนาดความยาว 13 ซม. ส่วนมากมีขนสีเขียว ส่วนปากและหัวเป็นสีเทา พิกัดอาศัยอยู่ในเกาะมาดากัสการ์
  • Abyssinian (Taranta) : นกเลิฟเบิร์ดปีกดำ ขนาดตัวยาวมาก 16.5 โดยส่วนมากเป็นสีเขียวสดใส ปากสีแดงชัดเจน ส่วนขนปีกเป็นสีดำ พิกัดที่อยู่อาศัยในรัฐเอริเทรีย และสาธารณรัฐเอธิโอเปีย
  • Red Face (Pullarius) : นกเลิฟเบิร์ดหัวแดง ลำตัวยาว 15 cm. ขนมีสีเขียวสด คอและใบหน้าส่วนบน เป็นสีส้มแดง พิกัดแหล่งพักพิงในทวีปแอฟริกากลาง
  • Black Collared (Swindernianus) : นกเลิฟเบิร์ดคอดำ หรือเรียก นกเลิฟเบิร์ดสวินเดอร์น ลำตัวมีขนาดยาว 13.5 ส่วนมากเป็นขนสีเขียวสว่าง บริเวณคอสีน้ำตาล หลังคอสีดำด้าน และปากสีเทาเข้ม พิกัดแหล่งที่อยู่ในทวีปแอฟริกาเส้นศูนย์สูตร

ข้อควรรู้สำหรับการเลี้ยง นกเลิฟเบิร์ด

นกเลิฟเบิร์ด

อยากเป็นเจ้าของ สัตว์ปีกสวยงาม อย่างเจ้าเลิฟเบิร์ด มือใหม่เริ่มต้นเลี้ยงได้ไม่ยาก โดยสายพันธุ์ยอดนิยม มักเป็นนกสีเขียว หรือนกหน้าพีช เพราะง่ายต่อการผสมพันธุ์ และการเลี้ยงดูแล เพื่อความสวยงาม เหมาะสำหรับการเลี้ยงลูกนก เพื่อการฝึกฝนที่ง่ายขึ้น ทั้งยังสามารถเลี้ยงตัวเดียวได้ โดยไม่จำเป็นต้องเลี้ยงเป็นคู่

วิธีเลี้ยงฉบับเบื้องต้น

กรงเลี้ยงนก ควรมีขนาดอย่างน้อย 45 x 45 x 45 เซนติเมตร หรือขนาดใหญ่มากกว่านั้น แนะนำเป็นกรงแนวนอน ดีกว่ากรงแนวตั้ง เพราะนกจะสามารถกางปีกบิน และข้ามกรงได้สะดวกกว่า มีกิ่งไม้ธรรมชาติ เพื่อการปีนป่าย ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงกรง แบบทรงกลมหรือโค้ง เพราะอาจทำให้ขนนกเสียหายได้

อาหารเหมือนกับนกแก้วทั่วไป เน้นสารอาหารหลากหลาย เป็นอาหารเม็ดสำเร็จรูป ผัก ผลไม้ และเมล็ดพืช ควรอยู่ในสัดส่วน 5% ของปริมาณอาหารทั้งหมด ยกตัวอย่างเช่น ผักกาดหอม แครอท ถั่วลันเตา มะเขือเทศ ข้าวไรน์ ข้าวโพดดิบ เป็นต้น รวมถึงสารอาหารจำเป็น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต น้ำสะอาดเป็นประจำ [2]

ค่าตัวเป็นเจ้าของ นกเลิฟเบิร์ด

สำหรับการเป็นเจ้าของเลิฟเบิร์ด สามารถซื้อได้ทั้งพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ เพื่อนำไปขยายพันธุ์ต่อเอง หรือซื้อไปเลี้ยงเพื่อความสวยงาม โดยราคาขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ต่าง ๆ ราคาลูกนกเริ่มต้น ประมาณ 500 – 10,000 บาท / ตัว ซึ่งราคาต่ำกว่า 1,000 บาท มักเป็นสายพันธุ์ ที่ได้รับความสนใจ คนนิยมเลี้ยง ทั้งในประเทศไทย ประเทศอินโดนีเซีย และประเทศฟิลิปปินส์ [3]

สรุป นกเลิฟเบิร์ด “Lovebird”

นกเลิฟเบิร์ด ตัวเลือกสัตว์เลี้ยง นกสวยงาม หากคุณเป็นคนที่ไม่เคย เลี้ยงนกชนิดไหนมาก่อน ก็สามารถเริ่มต้นกับนกแก้ว สีสันสวยงามนี้ได้เลย ด้วยนิสัยที่ชอบเล่นกับเจ้าของ เอาใจเก่ง แถมใช้งบประมาณไม่สูงมาก แล้วแต่สายพันธุ์ต่าง ๆ แน่นอนว่าเลิฟเบิร์ด จะทำให้ครอบครัวของคุณ ไม่เหงาอีกต่อไป

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง