นกแก้วฟอพัส สัตว์เลี้ยงตัวน้อย ที่หลายคนอยากเลี้ยง เป็นเพื่อนคลายเหงา ด้วยขนาดตัวที่ค่อนข้างเล็ก เน้นการบินอย่างอิสระ มากกว่าการจิกกัด หรือทำลายข้าวของ ทำให้เป็นที่นิยมอย่างมาก ทั้งในบ้านพัก คอนโด คนรักนกแก้วตกหลุมรัก ได้อย่างง่ายดาย เพราะความน่ารัก ความสวยงามของสีตามธรรมชาติ
นกแก้วฟอพัส (Forpus, Parrotlet) นกแก้วขนาดเล็ก อยู่ในวงศ์ของ Psittacidae เป็นสายพันธุ์ที่ถูกกำหนดว่า คือ นกแก้วแก้มเขียว หรือรู้จักกันในชื่อเรียก นกแก้วหางเขียว ถูกค้นพบโดยชาวเยอรมัน นักสัตววิทยา และได้รับการแนะนำขึ้น ในช่วงปี ค.ศ. 1858
แหล่งอาศัย และการกระจายพันธุ์ พบมากในป่ากึ่งเขตร้อน และเขตป่าดิบชื้น ของอเมริกากลาง และอเมริกาใต้ สามารถเห็นได้ตามแถบ หมู่เกาะแคริบเบียน หรือเกาะตรินิแดด โดยมีสกุลแบ่งออกเป็น 9 สายพันธุ์
คือ นกแก้วเม็กซิกัน นกแก้วหางเขียว นกแก้วหางโคบอลต์ นกแก้วปีกเทอร์ควอยซ์ นกแก้วชายฝั่ง นกแก้วแว่นตา นกแก้วดัสกีบิล นกแก้วแปซิฟิก และ นกแก้วหน้าเหลือง [1]
ฟอพัสจัดว่าเป็นนกแก้ว ตระกูลปากขอ ขึ้นชื่อว่ามีขนาดเล็กมากที่สุดในโลก โดยมีหลากหลายสีสัน สามารถพัฒนาเป็นสีใหม่ต่าง ๆ ได้ ส่วนมากจะเห็นเป็นสีเขียว ซึ่งมีรูปร่างคล้ายกับ นกเลิฟเบิร์ด และมีขนาดตัวใกล้เคียงกับ นกหงส์หยกฮอลแลนด์ เพียงแค่หางสั้นกว่า ประมาณ 12 – 15 เซนติเมตร
สำหรับน้ำหนักตัว ประมาณ 25 – 30 กรัม ขนาดลำตัวของตัวโตเต็มวัย ประมาณ 14 เซนติเมตร มีระดับการใช้เสียงค่อนข้างต่ำ และอายุขัย ประมาณ 15 – 25 ปี หรือมากที่สุดถึง 30 ปี ซึ่งสามารถจำแนกเพศได้ชัดเจน ตั้งแต่ลูกนกอายุ 3 สัปดาห์ แต่ยกเว้นกับสายพันธุ์ นกขาวตาแดง ที่ต้องอาศัยการจับคู่เท่านั้น
ตามนิสัยทั่วไปโดยธรรมชาติ นกฟอพัส จะมีนิสัยขี้เล่น กระตือรือร้น ควรเตรียมของเล่น หรือให้ออกมาผ่อนคลาย นอกกรงเป็นประจำ ซึ่งถ้าหากเลี้ยงเพียงตัวเดียว จะติดเจ้าของเป็นอย่างมาก และต้องให้เวลาในการเรียนรู้ โดยเฉพาะช่วง 1 – 3 เดือนแรก จะค่อนข้างฝึกง่าย
นกแก้วเป็นสัตว์ที่มีความฉลาด สามารถเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว สามารถบินได้อย่างอิสระ ทั้งยังชอบการอาบน้ำ แต่หากเริ่มเข้าสู่ช่วงโตเต็มวัย จะมีความหวงอาณาเขต จนถึงขั้นก้าวร้าว ซึ่งพร้อมที่จะต่อสู้กับนก หรือสัตว์ตัวอื่น จึงควรเลี้ยงแยกกรงจะดีที่สุด
ข้อควรรู้ฉบับมือใหม่ หัดเลี้ยงเจ้านกฟอพัส เหมาะกับคนที่ต้องการ เลี้ยงนกขนาดเล็ก และมีเวลาเอาใจใส่ โดยควรศึกษารายละเอียด นกแต่ละสายพันธุ์ก่อนเลี้ยง ทั้งที่พักอาศัย อาหารการกิน กิจกรรมประจำวัน รวมถึงโรคภัยที่อาจตามมา หากดูแลได้ไม่ดีพอ
นกแก้วเป็นสัตว์ขนาดเล็ก แต่ก็ต้องการพื้นที่อาศัย อย่างกว้างขวาง แนะนำขนาดกรงอย่างน้อย 18 x 18 นิ้ว หรือขนาดที่เหมาะสมดี ควรมีขนาด 30 x 18 นิ้ว และควรมีระยะห่างของซี่กรง ไม่เกิน 1 เซนติเมตร เพราะหากซี่กรงกว้างเกินไป หัวของนกแก้ว อาจเข้าไปติดได้ง่าย
อาหารของนกฟอพัส แน่นอนว่าต้องเป็นอาหาร ที่ดีต่อสุขภาพ มีความหลากหลาย เพราะไม่ควรให้กินอาหารชนิดเดียว เป็นเวลานาน แนะนำเป็นอาหาร จำพวกธัญพืช (ทานตะวัน เม็ดดอกคำฝอย ข้าวเปลือก ข้าวสาลี ถั่วลิสงไร้เปลือก เป็นต้น) รวมถึงผลไม้ ผักสด ผักใบเขียว
วิธีป้องกันความเครียดของนก ต้องมีของเล่นหลายประเภท อย่างเช่น กิ่งไม้ธรรมชาติ ห่วงแขวน สำหรับการเล่นแก้เบื่อ คลายเครียด สร้างความน่าตื่นเต้น หรือไว้สำหรับฝึกฝน ช่วยกระตุ้นสมอง สร้างพฤติกรรมที่ดี และที่สำคัญ ควรปล่อยออกนอกกรง ให้ออกกำลังกาย 2 – 3 ชั่วโมง / วัน เพื่อลดความเสี่ยงโรคอ้วน [2]
มือใหม่อยากเลี้ยงนกแก้ว โดยราคาของฟอพัส จะแตกต่างกัน ตามพื้นฐานของสี การกลายพันธุ์ โครงสร้างนก และสายเลือดต่าง ๆ อิงจากบ้านเลี้ยงนก JJ Forpus Bangkok แบ่งเป็นรายละเอียดราคา ดังต่อไปนี้
ที่มา: นกแก้วฟอพัสราคา 2024 [3]
นกแก้วฟอพัส นกตัวเล็กหลากสีสัน เหมาะสำหรับคนรักนกแก้ว หรือต้องการเลี้ยงนกสายพันธุ์เล็ก เพราะเลี้ยงง่าย ไม่ค่อยสร้างความรำคาญ หรือก่อปัญหา เหมือนกับสัตว์ชนิดอื่น อย่างเจ้าสัตว์เลี้ยงตัวจิ๋ว หนูแฮมสเตอร์แคระ ถึงแม้ตัวจะเล็กเหมือนกัน แต่การดำเนินชีวิตประจำวัน แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง