ปลาบลูแทงก์ ซึ่งเรียกว่า ปลาขี้ตังเบ็ดฟ้า

ปลาบลูแทงก์

ปลาบลูแทงก์ หรือ ปลาขี้ตังเบ็ดฟ้า (Blue Tank) หนึ่งในกลุ่มปลาน้ำเค็ม จัดเป็นปลาสายพันธุ์ ที่มีความสวยงดงาม ซึ่งปลาพันธุ์ดังกล่าว สามารถจดจำได้ง่าย ด้วยสีฟ้าและสีเหลือง ที่เป็นเอกลักษณ์ และพบได้ว่ายอยู่ท่ามกลาง แนวปะการัง หรือทะเลสาบในภูมิภาค

อีกทั้ง เป็นสายพันธุ์ที่กินพืชเป็นอาหาร โดยส่วนใหญ่กินสาหร่ายเป็นหลัก ซึ่งในบทความนี้ เราจะพาท่านมาทำความเข้าใจ อย่างละเอียดเกี่ยวกับ ลักษณะของปลาพันธุ์ดังกล่าว รวมถึงความเป็นมา ลักษณะทางกายภาพ ข้อมูล พร้อมราคาต่างๆ เพื่อให้ท่านเข้าใจกันให้มากยิ่งขึ้น

ประวัติ ปลาบลูแทงก์

ปลาบลูแทงก์ และมีชื่อทางด้านวิทยาศาสตร์ว่า Acanthurus leucosternon Bennett ซึ่งเป็นปลาน้ำเค็ม จัดอยู่ในวงศ์ Acanthuridae เป็นปลาทะเลที่ชื่นชอบ การแนวปะการัง จึงนิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม จัดเป็นปลาเพียงชนิดเดียวในสกุล Paracanthurus ปลาพันธุ์นี้จะมีลำตัวสีน้ำเงินเข้ม หางสีเหลือง มีลายสีดำคล้ายจานสี ส่วนล่างเป็นสีเหลือง 

ปลาสายพันธุ์นี้ พบได้เจอในทะเลตะวันตก หรือมหาสมุทรอินเดีย และมีการแพร่พันธุ์กว้าง สามารถพบได้ตลอด ภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก อย่างตามแนวปะการัง ในแอฟริกาตะวันออก ซึ่งได้แก่ ประเทศญี่ปุ่น, ซามัว, นิวแคลิโดเนีย และเกรตแบร์ริเออร์รีฟ เป็นต้นโดยปลาสายพันธุ์นี้ ได้รับความนิยมสูงในต่างประเทศ และในประเทศของเรา [1]

รูปร่าง ปลาบลูแทงก์

โดยรูปร่างทั่วไป ปลาสายพันธุ์นี้ เป็นปลาสวยงาม ที่ได้รับความชื่นชอบอย่างมาก และมีราคาแพงอีกชนิดหนึ่ง เลยก็ว่าได้ มีการค้นพบในทะเลตะวันตก และมหาสมุทรอินเดีย มีลำตัวเป็นสีน้ำเงินเข้ม ห่างเหลือง และมีลายสีดำคล้ายคลึงกับจานสี ซึ่งปลาสายพันธุ์ดังกล่าวนั้น เป็นปลาที่สามารถรับเลี้ยงได้ง่าย พวกมันชอบกินสาหร่ายทะเล เป็นอาหารหลัก [2]

ภาพรวมสายพันธุ์ บลูแทงก์

  • ตระกูล : Paracanthurus
  • ต้นกำเนิด : พบได้เจอในทะเลตะวันตก หรือมหาสมุทรอินเดีย และมีการแพร่พันธุ์กว้าง สามารถพบได้ตลอด ภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก
  • สัดส่วน : ขนาด 31 ชม.(12 นิ้ว)
  • อาหาร : กินอาหารได้หลากหลาย ทั้งอาหารเม็ด และสาหร่ายทะเล ตะไคร่ อาหารสด เป็นต้น
  • ระดับการดูแล : ง่าย
  • คุณภาพน้ำ : ค่า pH ควรอยู่ที่ 6.5 – 8
  • อุณหภูมิ : อุณหภูมิที่เหมาะสมควรอยู่ที่ 33 – 34 องศา
  • การผสมพันธุ์ : ออกลูกเป็นไข่

วิธีการเลี้ยง ปลาบลูแทงก์

ปลาบลูแทงก์

ปลาชนิดนี้เป็นปลา ที่มีนิสัยรักสงบมาก สำหรับการเลี้ยงปลาพันธุ์นี้ แนะนำให้เลือกใช้ตู้ขนาด 60 x 24 x 24 นิ้ว เพื่อให้ขนาดโตเต็มที่ของปลา อยู่ที่ประมาณ 12 นิ้ว ส่วนอาหารที่ใช้ในการเลี้ยง จะเน้นเป็นพืช สาหร่ายแบบสด, ใบผักกาดหอม หรือสาหร่ายแห้งได้ทั้งหมด 

การเลี้ยงดูที่ควรแยกแค่ตู้ละ 1 ตัว นอกเหนือจากการเจริญเติบโต ที่รวดเร็วแล้ว ยังมีพฤติกรรมหวงเขต จากสายพันธุ์เดียวกัน ที่มากพอสมควร นอกจากนี้ การดูแลทำความสะอาดตู้ปลา ควรมีเป็นประจำอย่างยิ่ง เนื่องจากว่าพวกมัน เป็นปลาที่กินอาหารบ่อยครั้ง 

และมีการขับถ่ายของเสีย เป็นจำนวนเยอะมาก ถ้าไม่มีระบบการกรองที่ดี หรือการทำความสะอาด เข้าไม่ถึงเพียงพอนั้น และปริมาณของแบคทีเรีย มีไม่สมดุล จะทำให้น้ำเสียเร็ว ที่สำคัญคือไม่ควรตกแต่งตู้ปลา ด้วยสาหร่ายหรือวัสดุอื่น ที่มีลักษณะคล้ายคลึง กับสาหร่ายทะเล เพราะอาจพาให้เข้าใจผิด และทำให้ปลากิน สิ่งแปลกปลอม จนส่งผลให้เกิดการสูญเสียได้ อีกด้วย 

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับปลา

เครื่องกรองที่ใช้ต้องมีประสิทธิภาพ และทำให้เกิดความเคลื่อนไหว เพื่อการกรองที่ดีที่สุด การใช้ระบบไฟ เพราะว่า จัดตู้ควรเลือกเป็นหลอดฟลูออเรสเซนซ์ แบบแอทรอลิกบลู หรือไวท์บลู โดยจะต้องมีค่าตั้งแต่ 10,000 K ขึ้นไป เพื่อทำให้แสงฟ้าที่เหมาะสม กับตัวปลาให้มากที่สุด 

สำหรับการเปลี่ยนน้ำ ควรทำให้มีความใกล้เคียงกับ น้ำทะเลธรรมชาติ ใช้เกลือประมาณ 30-35 กรัม ต่อขนาดตู้ 36 นิ้ว และจะต้องมีตัววัดค่าน้ำ ความเป็นกรด-ด่าง หรือค่า pH ที่จะต้องอยู่ในช่วง 7.3-8.6 เท่านั้น ผู้เลี้ยงที่ต้องการจัดตู้ให้ปลาอยู่ ได้อย่างมีความสุข จึงควรมีการใช้ ไฮโดรมิเตอร์ร่วมด้วย นั่นเอง

ปลาบลูแทงค์ ราคา

สำหรับราคาปลาพันธุ์นี้ในไทย มีขายทั้งลักษณะทั่วไป ราคาตกอยู่ลาสายพันธุ์นี้ ขายเริ่มต้นที่ 1,200 บาทขึ้นไป [3] และหากใครที่สนใจจริงๆ แล้วละก็ ทุกคนสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่นี่ สัตว์ทะเลแปลกในอันดามัน (ปลาบลูแทงค์)

สรุป ปลาบลูแทงก์

ปลาสายพันธุ์บลูแทงก์ จัดเป็นปลาสายพันธุ์น้ำเค็ม หรือที่นิยมเรียกว่า เป็นปลาสวยงาม และสามารถพบได้ ตามทะเลอันดามัน ปลาพันธุ์ดังกล่าว สามารถจดจำได้ง่าย ด้วยสีฟ้าและสีเหลือง ที่เป็นเอกลักษณ์ และพบได้ว่ายอยู่ท่ามกลาง แนวปะการัง หรือทะเลสาบในภูมิภาค อีกทั้ง เป็นสายพันธุ์ที่กินพืชเป็นอาหาร โดยส่วนใหญ่กินสาหร่าย และสาหร่ายในรูปแบบอื่น 

อาหารนี้ช่วยรักษา แนวปะการังให้แข็งแรง โดยป้องกันการเจริญเติบโต ของสาหร่ายที่มากเกินไป ซึ่งสามารถปกปิด และฆ่าปะการังได้ ทั่วไปแล้วจะพบพวกมัน ว่ายกันเป็นกลุ่ม และเคลื่อนไหวประสานกัน ทำให้เป็นภาพที่สวยงาม เมื่อใครได้พบเห็นเป็นอย่างมาก นั่นเอง

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง