ปลาหางนกยูง สัตว์น้ำสวยงาม ที่เห็นกันมาตั้งแต่เด็ก ขึ้นชื่อว่าเป็น “ปลาสีรุ้งเลี้ยงง่าย” มือใหม่ไม่เคยเลี้ยงปลาชนิดไหนมาก่อน ก็สามารถเลี้ยงให้โต จนหมดอายุขัยได้เลย เพราะค่อนข้างมีความอดทน ความแข็งแรง ทั้งยังต้องการ การดูแลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เน้นเลี้ยงเพื่อความสวยงาม แถมยังมีประโยชน์อีกด้วย
ปลาหางนกยูง (Guppy) หรือรู้จักกันว่า “ปลาสีรุ้ง” เป็นปลาน้ำจืดเขตร้อน จัดอยู่ในวงศ์ของ Poeciliidae ต้นกำเนิดมาจาก ทางตะวันออกเฉียงใต้ ของทวีปอเมริกาใต้ โดยมีการแพร่กระจาย สายพันธุ์อย่างกว้างขวาง ซึ่งสามารถปรับตัวได้ดี กับทุกสภาพแวดล้อม และระบบนิเวศที่แตกต่างกัน ยกเว้นในทวีปแอนตาร์กติกา
พบเห็นได้ในแหล่งน้ำจืด และน้ำกร่อยตามธรรมชาติ ที่มีกระแสน้ำไหลผ่านเบา ๆ มักอยู่รวมตัวกันเป็นฝูง โดยเฉพาะในลำธาร หรือขอบชายฝั่ง ของทวีปอเมริกากลาง ตลอดจนถึงทวีปอเมริกาใต้ และมีแนวโน้มการเจริญเติบโต ได้เป็นอย่างดี ทั้งในน้ำจืดและน้ำเค็ม และในแอ่งน้ำขนาดเล็ก มากกว่าแม่น้ำสายใหญ่ [1]
ลักษณะทางกายภาพ โดยทั่วไปจะมีขนาดเล็ก ซึ่งตัวผู้มีขนาดความยาว ประมาณ 1.5 – 3.5 เซนติเมตร ในขณะที่ขนาดความยาว ของตัวเมีย อยู่ประมาณ 3 – 6 เซนติเมตร แต่ลักษณะที่เด่นชัด คือ ตัวผู้จะมีหางยาว สีสันหลากหลายสวยงาม มากกว่าตัวเมีย ขณะเดียวกันตัวเมีย จะมีหางสั้น และเป็นสีน้ำตาลอ่อนเท่านั้น
สายพันธุ์ปลาหางนกยูง แบ่งตามลักษณะของหาง ออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ดังต่อไปนี้
อย่างที่รู้กันดีว่าปลา หางนกยูง สามารถแพร่พันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว และมีจำนวนประชากรมาก ซึ่งเกี่ยวข้องกับวงจรชีวิตที่ค่อนข้างสั้น แต่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ ไม่จำเป็นต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่ แต่พ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ อาจกำเนิดลูกที่มีจำนวนเยอะขึ้น แต่ขนาดตัวเล็กลง หากมีประชากรนักล่าสูงเช่นกัน
โดยหางนกยูงตัวผู้ จะมีช่วงวัยเจริญเติบโตเต็มที่ ภายใน 7 สัปดาห์ หรือน้อยกว่านั้น สำหรับหางนกยูงตัวเมีย สามารถออกลูกครั้งแรกได้ ตอนอายุครบ 10 – 20 สัปดาห์ และมีการสืบพันธุ์กันอย่างต่อเนื่อง จนถึงอายุ 20 – 34 เดือน ซึ่งมีอายุขัยเฉลี่ยเพียงแค่ 2 ปี อาจมากกว่าหรือน้อยกว่า ขึ้นอยู่กับแหล่งอาศัย
ปลาสวยงามขนาดเล็ก ค่อนข้างเลี้ยงง่ายอย่างมาก เหมาะสำหรับผู้ที่หลงรัก ความสวยงามของปลา สามารถเลี้ยงได้ทั้งในตู้ปลา หรือในอ่างปลาหลายขนาด บ้านไหนมีเด็กเล็ก ก็สามารถเลี้ยงได้ ไม่เป็นอันตราย บอกต่อวิธีเลี้ยงอย่างไร มีประโยชน์อะไรบ้าง และราคาการซื้อขายตามท้องตลาด
ปลาหางนกยูงเป็นสัตว์น้ำสังคม ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง แต่แนะนำว่าไม่ควรเลี้ยง ตัวเมียกับตัวผู้ด้วยกัน เพื่อหลีกเลี่ยงการผสมพันธุ์กันเอง ควรจัดเตรียมเลี้ยงในน้ำสะอาด กำจัดคลอรีนก่อน ซึ่งควรมีค่า pH ประมาณ 6.5 – 7.5 อุณหภูมิน้ำ อยู่ระหว่าง 19 – 25 องศาเซลเซียส และควรมีระดับเกลือ 1 ช้อนโต๊ะ / น้ำ 19 ลิตร
อาหารปลา สามารถกินได้หลากหลาย ทั้งพืช สัตว์น้ำขนาดเล็ก และอาหารปลาสำเร็จรูป อย่างเช่น ลูกน้ำ ไส้เดือนน้ำ ไรทะเล ไรแดง ตะไคร่น้ำ เป็นต้น หรือหากให้เป็นอาหารสด ควรนำไปแช่น้ำด่างทับทิมก่อน สักประมาณ 10 – 20 วินาที แนะนำให้อาหาร 2 ครั้ง / วัน ช่วงเช้ากับช่วงเย็นเท่านั้น
ปัญหาสุขภาพ ถึงแม้ว่าจะเป็นปลาปรับตัวได้ง่าย เลี้ยงง่าย แต่ก็ยังมีโรคกวนใจหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น โรคจุดขาว โรคแบคทีเรีย โรคติดจากหนอนสมอ และโรคติดจากปลิงใส ซึ่งสามารถป้องกันได้ จากการสังเกตภายนอกลำตัวและหาง ควรจับแยกออกจากกลุ่ม และซื้อยาหรือสารเคมี สำหรับการรักษาโรคโดยตรง [2]
ราคาซื้อขายปลา หางนกยูงในปัจจุบัน ค่อนข้างมีราคาถูกมาก เพราะหาซื้อได้ง่าย และขยายพันธุ์ได้รวดเร็ว โดยมีราคาแตกต่างกันตามสายพันธุ์ ส่วนมากขายอยู่ที่ 30 – 50 บาท / คู่ หรือ 100 บาท / คู่ และถ้าหากเป็นสายพันธุ์จากต่างประเทศ มีรูปร่างดี สีสันสวยงาม และมีกระโดง ราคาอาจสูงถึงคู่ละ 1,000 – 1,500 บาท [3]
สำหรับสายพันธุ์หางนกยูง ที่นิยมเลี้ยงในประเทศไทย คือ สายพันธุ์โมเสก (ครีบหางเป็นแต้มหรือลวดลาย), สายพันธุ์ทักซิโด้, สายพันธุ์กราส, สายพันธุ์คอบร้า (ลวดลายคล้ายงู), สายพันธุ์โซลิด (สีเดียวไม่มีลาย), สายพันธุ์อัลบิโน (สีพื้นตาแดง), สายพันธุ์ริบบอน, สายพันธุ์สวอลโล (ครีบปลายแตก) และ สายพันธุ์อิสระ
ประโยชน์จากการเลี้ยงหางนกยูง เนื่องจากว่าเป็นปลาเลี้ยงง่าย ขยายพันธุ์ค่อนข้างง่าย จึงสามารถเลี้ยงไว้ เพื่อกินลูกน้ำยุงลาย สำหรับป้องกันการเกิดโรคจากยุง ทั้งยังช่วยกำจัดตัวอ่อนแมลงต่าง ๆ ได้ดีอีกด้วย นอกจากนี้ยังเลี้ยง เพื่อความสวยงาม ช่วยผ่อนคลายความเครียดได้ไม่น้อยเลย
ปลาหางนกยูง หนึ่งในสัตว์น้ำเลี้ยงง่ายมาก เหมาะสำหรับคนเริ่มต้นอยากเลี้ยงปลา เพราะไม่ต้องการการดูแลเอาใจใส่มากมาย แค่เปลี่ยนน้ำสะอาด ให้อาหารตามเวลาก็เพียงพอ ทั้งยังมีราคาค่อนข้างถูก ตกตัวละ 10 – 25 บาท เท่านั้น แล้วค่อยขยับเลเวล ไปเลี้ยงสัตว์แปลกอย่าง ปลาตีนเม็กซิโก ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน