ข้อมูล สัตว์น้ำสวยงามน้ำจืด มาจากหลายแห่ง

สัตว์น้ำสวยงามน้ำจืด

สัตว์น้ำสวยงามน้ำจืด มีหลากหลายสายพันธุ์ ที่ได้รับการยอมรับ ไม่ว่าจะเป็น ปลาเรดเทลแคทฟิช, ปลาหมอม้าลาย, ปลากระทิงไฟ, ปลากระดี่มุก และ ปลาเสือตอลายเล็ก ที่ได้รวบรวมมาจากหลายที่ หลายแห่ง อีกทั้ง สามารถพบเห็นได้ยากหรือง่าย วันนี้เราจะมานำเสนอ ความสำคัญของปลาสวยงาม แนวทางอนุรักษ์ หรือข้อมูลที่สำคัญต่างๆ ให้ผู้เลี้ยงปลาทั้งหลายได้ทราบกัน

ที่มา สัตว์น้ำสวยงามน้ำจืด ที่น่าสนใจ

สำหรับ สัตว์น้ำสวยงามน้ำจืด หรือ ปลาน้ำจืด (Freshwater Beautiful Fish) มีสัตว์เลี้ยงบางชนิด สามารถพบเจอได้ยาก หรือเหลือน้อย ทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ โดยเป็นปลาที่ใช้ชีวิตบางส่วน หรือทั้งหมดในแหล่งน้ำจืด ได้แก่ แม่น้ำ ทะเลสาบ และพื้นที่ชุ่มน้ำภายในแผ่นดิน 

ซึ่งมีความเค็มน้อยกว่า 1.05% สภาพแวดล้อมเหล่านี้ แตกต่างจากแหล่ง ที่อยู่อาศัยในทะเลในหลายด้าน โดยเฉพาะความแตกต่าง ของระดับความเข้มข้น ของออสโมลาริตี เพื่อความอยู่รอดในน้ำจืด และปลาต้องปรับตัวตามธรรมชาติต่างๆ

โดยร้อยละ 41.24% ของสายพันธุ์ปลา ที่รู้จักทั้งหมดพบได้ในน้ำจืด สาเหตุหลักมาจากการที่แหล่ง ที่อยู่อาศัยกระจัดกระจาย ทำให้เกิดการขยายตัวอย่างรวดเร็ว เมื่อต้องจัดการกับบ่อน้ำ และทะเลสาบ อาจใช้แบบจำลองพื้นฐาน ของการแยกตัวแบบเดียวกันกับ เมื่อศึกษาทางด้านชีวภูมิศาสตร์ ของแม่น้ำนั่นเอง [1]

ปลาน้ำจืดใกล้สูญพันธุ์ สำคัญอย่างไร?

ต้องบอกเลยว่าตอนนี้ ประเทศเรามีปลาน้ำจืดหลากหลายชนิด ที่ใกล้สูญพันธุ์ หรือปริมาณลดลงกว่าเดิม ทำให้ต้องมีการปล่อยพันธุ์ ปลาลงในแหล่งน้ำที่จัดขึ้น ปัจจุบันปลาสวยงาม ของประเทศไทย ได้รับการยอมรับ ในตลาดโลกเป็นอย่างมาก ทั้งในด้านความหลากหลายของสายพันธุ์ ความสวยงาม แปลกใหม่ ราคาไม่แพงเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่ง 

อีกทั้ง ประเทศไทยยังมีการผลักดันให้ ผู้เพาะเลี้ยงปลาน้ำจืด เข้าสู่มาตรฐานฟาร์ม เพื่อควบคุมคุณภาพ และการกักกันโรคของปลา ในการส่งออกให้เป็นที่ชื่นชอบ และได้รับความเชื่อมั่น จากผู้ค้าทั่วโลกมากยิ่งขึ้น อันจะเห็นได้ จากมูลค่าการส่งออก ในแต่ละปีที่มากกว่า 700 ล้านบาท โดยประเทศของเรา เป็นประเทศผู้ส่งออกอันดับ 5 ของโลก มีส่วนแบ่งในตลาดโลกร้อยละ 7.38 

นอกจากนี้ ด้านการอนุรักษ์ กรมประมงสามารถพัฒนาเทคนิคการเพาะขยายพันธุ์ปลาสวยงามพื้นเมืองของไทยได้เป็นผลสำเร็จหลากหลายสายพันธุ์ อาทิ ปลาปล้องอ้อย ปลาซิวข้างขวาน ปลาก้างพระร่วง ปลารากกล้วย เป็นต้น 

และมีนโยบายในการถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการเพาะเลี้ยงให้เกษตรกรได้มีการเพาะเลี้ยงเพื่อการส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ เพื่อผลักดันธุรกิจปลาสวยงามควบคู่ไปกับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน โดยการปลูกสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์สัตว์น้ำพื้นเมืองของไทยไม่ให้สูญพันธุ์ไปจากแหล่งน้ำธรรมชาติ [2]

แนวทางการอนุรักษ์ สัตว์น้ำสวยงามน้ำจืด

การอนุรักษ์ปลาสวยงามนั้น นับว่าเป็นความจำเป็น ของปลาหลากหลายชนิดทั่วโลก ซึ่งมีความพร้อมในการพัฒนา และการอนุรักษ์ กรมประมงสามารถพัฒนาเทคนิค การเพาะขยายพันธุ์ ปลาสวยงามพื้นเมืองของไทย ที่ได้เป็นผลสำเร็จหลากหลายสายพันธุ์ อาทิ ปลาปล้องอ้อย ปลาซิวข้างขวาน ปลาก้างพระร่วง ปลารากกล้วย เป็นต้น 

จึงทำให้กรมประมง มีนโยบาย ในการถ่ายทอดเทคโนโลยี ทางด้านการเพาะเลี้ยงปลาสวยงาม ให้เกษตรกรได้มีการเพาะเลี้ยง เพื่อการส่งออก ไปจำหน่ายยังต่างประเทศ เพื่อผลักดันธุรกิจปลาสวยงามควบคู่ ไปกับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน โดยการปลูกสร้างจิต สำนึกในการอนุรักษ์ สัตว์น้ำพื้นเมืองของไทย ไม่ให้สูญพันธุ์ไป จากแหล่งน้ำธรรมชาติเป็นหลัก [3]

สัตว์น้ำสวยงามน้ำจืด มีความสำคัญสูง

สัตว์น้ำสวยงามน้ำจืด

สำหรับปลาน้ำจืด เป็นหนึ่งในการค้าส่งออก ที่มีขยายตัวในตลาดโลก อย่างรวดเร็ว ซึ่งประเทศเรานั้น ถือว่ามีปัจจัยพื้นฐาน ที่ได้เปรียบประเทศ คู่แข่งขันหลายด้าน ทั้งในเรื่องความพร้อม ทางศักยภาพของเกษตรกร เทคนิคการเพาะเลี้ยง การพัฒนาสายพันธุ์ ลักษณะภูมิประเทศ และภูมิภาคอากาศที่เหมาะสม ฯลฯ

ล้วนแต่เป็นสิ่งสำคัญ ที่ผลักดันให้ประเทศเรา อย่างก้าวหน้า ขึ้นอยู่ในระดับประเทศ ผู้ส่งออกปลาน้ำจืด ที่สำคัญอันดับต้นๆ ของโลก โดยกรมประมง ได้เห็นถึงความสำคัญ ทางด้านการเพาะเลี้ยงปลาน้ำจืด ในเชิงพาณิชย์ควบคู่ไปกับ การอนุรักษ์พันธุ์ปลาพื้นเมือง

การดูแลรักษาพันธุ์ไม้น้ำในตู้ปลา

สำหรับสิ่งที่จำเป็นต้องคำนึงถึง ดังต่อไปนี้

  • ควรให้อาหารสำเร็จรูป สลับกับสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดเล็ก ได้แก่ ไรแดง ลูกน้ำ วันละ 2 เวลา ในช่วงเวลาเช้าและเย็น
  • ควรทำความสะอาด หรือสิ่งของในการตู้ปลา หิน กรวด และระบบกรองน้ำทุก 3 เดือน
  • สำหรับสิ่งของแตกต่างในตู้ปลา ไม่เคยเป็นโรค ควรดูดน้ำเดิมออกประมาณครึ่งเดียว หลังจากนั้นใส่น้ำใหม่เข้าไป เพื่อให้พวกมันปรับสภาพได้ดี
  • ควรเปลี่ยนน้ำปลาในตู้ปลา อย่างน้อย 1 สัปดาห์ (เพื่อไม่ให้ปลาช็อก เมื่ออยู่ในน้ำใหม่)
  • ถ้าน้ำเปลี่ยนสีหรือมีกลิ่น ควรเปลี่ยนน้ำในตู้ปลาทันที
  • ช่วงฤดูหนาว ไม่ควรเปลี่ยนน้ำบ่อย เพราะปลาอาจจะช็อก หรือตายได้ง่าย
  • การเปลี่ยนน้ำในตู้ปลา ควรพักน้ำไว้ก่อนล่วงหน้า ประมาณ 2 ถึง 3 วัน
  • ปลาโตเต็มวัย จนขยายพันธุ์ได้แล้ว ควรดูแลและเอาใจใส่ให้ดีทุกครั้ง

ตัวอย่างปลายอดฮิต

ประเภทของปลา พบเจอได้ง่าย และยากทั้งในไทย และอีกหลายประเทศ มีดังต่อไปนี้

  • ปลาเรดเทลแคทฟิช : ปลาเรดเทลแคทฟิช (Redtail catfish) หนึ่งในกลุ่มปลาสวยงามน้ำจืด ที่ตัวใหญ่ชนิดหนึ่ง ในสกุล Phractocephalus ที่มีความน่าสนใจ ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมไม่น้อย และปลาสายพันธุ์นี้กลายเป็น ปลาสวยงามไป ที่เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากเลี้ยงได้ไม่ยากมากนัก
  • ปลาหมอม้าลาย : ปลาหมอม้าลาย (Convict Cichlid) หนึ่งในกลุ่มปลาสวยงามน้ำจืด ในสกุล Amatitlania ที่มีความน่าสนใจ มักมีลำตัวสีเทาถึงสีเงิน แถบแนวตั้งสีดำ ไปจนถึงความยาวของลำตัว ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมไม่น้อย
  • ปลากระทิงไฟ : ปลากระทิงไฟ (Fire Spiny Eel) หนึ่งในกลุ่มปลาสวยงามน้ำจืด ในสกุล Mastacembelus ที่มีความน่ารับเลี้ยงไม่น้อย มักมีลำตัวเป็นปลาที่มีสีสัน และลวดลายสวยงาม พื้นลำตัวมีสีน้ำตาลเข้ม ไปจนถึงดำสนิท และประแต้มด้วยแถบสีแดงสดเป็นเส้น ลักษณะคล้ายกับเส้นประ
  • ปลากระดี่มุก : ปลากระดี่มุก (Pearl Gourami) หนึ่งในกลุ่มปลาสวยงามน้ำจืด ในสกุล Trichopodus ที่มีความน่ารับเลี้ยงเป็นอย่างมาก มักมีรูปร่างคล้ายปลากระดี่หม้อ (T. trichopterus) ซึ่งเป็นปลาที่อยู่ในสกุลเดียวกัน แต่ปลาชนิดนี้มีลำตัว กว้างกว่าเล็กน้อย

สรุป สัตว์น้ำสวยงามน้ำจืด

ปลาน้ำจืด จัดเป็นปลาสวยงามอีกชนิดหนึ่ง และเป็นสัตว์เลี้ยงที่หลายท่านชื่นชอบ อีกหนึ่งชนิดของคนทุกวันนี้ เนื่องจากเป็นปลาที่มีสีสันน่าหลงใส เลี้ยงได้ง่าย แถมยังสามารถเสริมสิ่งมงคลต่างๆ ดังนั้น คนส่วนใหญ่จึงนิยมเลี้ยงปลา เพื่อความสวยงาม หรือดูน่าประทับใจ โดยพวกมันจะมีหลากหลายราคา มีราคาซื้อขายเพียงไม่กี่บาทเท่านั้น

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน

แหล่งอ้างอิง