หนูฮิปโปแคระ เจ้าสัตว์ตัวน้อยหน้าตาน่ารัก รูปร่างประหลาดไม่มีขน คือลูกหนูหรือลูกฮิปโปกันแน่? พามาทำความรู้จักกันอย่างละเอียด สัตว์กลายพันธุ์ทางพันธุกรรม เกิดมาไร้ขน หรือมีขนเพียงเล็กน้อย จนทำให้มองเห็นผิวหนังเด่นชัด หนึ่งในสัตว์เลี้ยงแปลกใหม่ยอดนิยม ทั้งในไทยและต่างประเทศ
หนูฮิปโปแคระ (Skinny Guinea Pig) หรือเรียกกันว่า หนูตะเภาไร้ขน (Hairless Guinea Pig) เป็นหนูตะเภาผอม สายพันธุ์ไม่มีขน โดยมีต้นกำเนิดในประเทศแคนาดา มาจากลูกผสม ระหว่างหนูตะเภามีขน และหนูตะเภาไร้ขน ซึ่งลักษณะไร้ขน เป็นผลมาจากยีนด้อย ที่แตกต่างจากเดิมไปมาก
คล้ายกับหนูตะเภาบอลด์วิน (Baldwin Guinea Pig) หนูไร้ขน ที่หลายคนมักสับสนเช่นกัน โดยมีอายุขัย สำหรับตัวผู้ เฉลี่ยประมาณ 5 – 7 ปี และสำหรับตัวเมีย ประมาณ 3 – 5 ปี ได้รับความนิยมในการเลี้ยง ในประเทศแคนาดา ภูมิภาคสแกนดิเนเวีย ประเทศรัสเซีย และสหรัฐอเมริกา [1]
ลักษณะรูปร่างต่างจากหนูทั่วไป คือ ผิวหนังตามลำตัวไม่มีขน โดยมีลำตัวสั้น ประมาณ 8 – 10 นิ้ว คอสั้น และขาสั้น ประกอบด้วยนิ้วเท้าหน้า 4 นิ้ว ส่วนนิ้วเท้าหลัง 3 นิ้ว ซึ่งตัวผู้จะมีขนาดใหญ่กว่าตัวเมีย มีน้ำหนักของตัวโตเต็มวัย เฉลี่ยประมาณ 900 – 1,000 กรัม ทั้งยังมีสีผิวหนังแตกต่างกัน คล้ายกับสีของวัว
อุณหภูมิเหมาะสมต่อร่างกาย ซึ่งพวกมันต้องการบริโภคอาหาร ให้มากพอสมควรในแต่ละวัน เพื่อนำไปรักษาอุณหภูมิในร่างกาย โดยมีอุณหภูมิที่เหมาะสม กับหนูตะเภาประเภทไร้ขน คือ 20 – 26 องศาเซลเซียส ซึ่งสูงกว่าอุณหภูมิ ที่หนูตะเภามีขนเล็กน้อยต้องการ
เปรียบเทียบความแตกต่าง ระหว่างหนูตะเภาไร้ขน และหนูตะเภาบอลด์วิน
นิสัยตามธรรมชาติ ของหนูแคระไร้ขน จะมีนิสัยโดยรวม คล้ายกับหนูแกสบี้ ค่อนข้างเชื่อง ไม่กัดคน ไม่มีความก้าวร้าว ตื่นกลัว ตกใจง่าย และสามารถฝึกฝนได้ ทั้งการเรียกชื่อให้มาหา หรือการฝึกขับถ่ายให้เป็นที่ ซึ่งจะมีแค่กลุ่มส่วนน้อยเท่านั้น ที่มักแสดงนิสัย ก้าวร้าวออกมา แล้วแต่นิสัยของแต่ละตัว
บุคลิกมีความเป็นมิตร หนึ่งในสัตว์ชอบเข้าสังคม ชอบมีปฏิสัมพันธ์กับเจ้าของ มีความกระตือรือร้น ทั้งยังสามารถเปล่งเสียง สื่อสารออกมาได้หลากหลาย เหมาะสำหรับการเลี้ยงไว้เป็นคู่ หรือเลี้ยงกันเป็นกลุ่มเล็ก เพราะว่าชอบอยู่ร่วมกัน จะได้ไม่เกิดอาการ เบื่อหรือเหงาอีกด้วย
พฤติกรรมการสืบพันธุ์ จะเข้าสู่ช่วงวัยเจริญพันธุ์ เมื่อมีอายุครบกำหนด 10 – 12 สัปดาห์ โดยตัวเมียใช้ระยะเวลาการตั้งท้อง 59 – 72 วัน แล้วออกลูกเป็นตัว ลูกหนูตัวแดง ๆ ครอกละ 1 – 6 ตัว และหลังจากนั้น อีกประมาณ 16 – 19 วัน ตัวเมียจะเริ่มมองหา การผสมพันธุ์กับตัวผู้ใหม่อีกครั้ง
การเลี้ยงและดูแลหนูตะเภาไร้ขน ต้องการการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างมาก ทั้งเรื่องของอาหาร อุณหภูมิของสภาพแวดล้อม รวมถึงการรักษาความสะอาด ถามว่าเลี้ยงยากไหม? คำตอบคือไม่ยาก แต่ต้องมีการดูแลเป็นพิเศษ กว่าหนูตะเภาทั่วไป เพื่อให้มีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ และมีความสุขตลอดอายุขัย
อาหารของหนูฮิปโปแคระ เป็นสัตว์กินพืช แนะนำเป็นหญ้าหลายชนิด โดยเฉพาะหญ้าทิโมธี ซึ่งมีไฟเบอร์จำเป็นต่อร่างกาย ช่วยในเรื่องระบบย่อยอาหาร และควรให้กินผักและผลไม้ ในปริมาณที่เหมาะสม อย่างเช่น ผักโขม ผักคะน้า พริกหยวก แครอท แตงกวา บลูเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ และแอปเปิล เป็นต้น
อาหารต้องห้าม! ที่ควรหลีกเลี่ยง ไม่ควรให้กินอาหารไขมันสูง (อาจเกิดไขมันสะสม เป็นอันตรายต่อร่างกาย), อาหารมีน้ำตาล (ประเภทขนม ลูกอม ช็อกโกแลต อาจทำให้เกิดโรคอ้วน และปัญหาฟันเกิดขึ้นมากเกินไป) และผลิตภัณฑ์จากนม (เพราะไม่สามารถย่อยได้)
การดูแลรักษาสุขภาพ เป็นสัตว์ที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ เพราะมีแนวโน้มในการเกิด ปัญหาสุขภาพได้ง่าย เนื่องจากว่าไม่มีขน จึงมีผิวหนังบอบบาง ไวต่อการระคายเคือง และการติดเชื้อ ดังนั้นควรทำความสะอาดผิวหนัง ให้แห้งเป็นประจำ รวมถึงปัญหาทันตกรรม ที่มีฟันขึ้นมากจนเกินไปอีกด้วย [2]
ราคาจากฟาร์มเพาะพันธุ์ ในประเทศไทย โดยทั่วไปจะมีราคา เริ่มต้น 1,500 – 5,000 บาท / ตัว ขึ้นอยู่กับโครงสร้างของหนูแคระ และสีของผิวหนัง [3] หรือราคาในต่างประเทศ จะมีราคาเริ่มต้น ประมาณ 4,400 – 5,500 บาท / ตัว นอกจากนั้น ยังสามารถรับเลี้ยงได้ จากสถานสงเคราะห์สัตว์อีกด้วย
หนูฮิปโปแคระ หนูตะเภาสายพันธุ์แคระไร้ขน มีเอกลักษณ์โดดเด่น ค่อนข้างแปลกตา หน้าตาน่ารัก จึงเป็นที่ต้องการเลี้ยง ของใครหลายคนในปัจจุบัน เช่นเดียวกับสัตว์เลี้ยงใหม่อย่าง แพะแคระ เจ้าของต้องดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ โดยเฉพาะการควบคุมอุณหภูมิ เพื่อให้แน่ใจว่าหนูแคระ มีสุขภาพที่ดี และอยู่อย่างสุขสบาย
