หมาบีเกิ้ล จัดเป็นประเภทหมาแสนฉลาด มาพร้อมด้วยความน่ารัก แถมยังมีการดมกลิ่นชั้นเลิศ ไม่เป็นรองใคร หากใครเห็นแล้ว ก็อยากจะเข้าไปกอดทันที นอกจากนี้ มีนิสัยคล้ายกับ หมามินิชเนาเซอร์ ซึ่งในวันนี้เราจะพาทุกคน ไปทำความรู้จักกับ พวกมันมากยิ่งขึ้นกันเลย
หมาบีเกิ้ล หรือ Beagle โดยสุนัขพันธุ์นี้นั้น มีขนาดกลาง หูยาว เป็นสายพันธุ์ที่ที่มีการค้นพบที่แรก ในสหราชอาณาจักร และใช้เป็นหมาสำหรับการล่าสัตว์ โดยมีจุดเด่นในเรื่องการดมกลิ่น เพราะว่าเป็นหมาที่มีประสาทด้านการดมกลิ่นดีมาก ทำให้มีการฝึกฝนให้เป็น หมาตรวจสอบของผิดกฎหมาย [1]
Beagle ความพิเศษของสุนัขสายพันธุ์นี้ นั่นก็คือ ขนาดตัวไม่ใหญ่มาก แต่อย่าประเมินพวกมันต่ำเกินไป เพราะว่าหมาพันธุ์ดังกล่าว มีทั้งแข็งแรงและมีพลังงานสูง ถัดจากเรื่องขนาดตัวแล้ว ก็มีลักษณะขนหนาสองชั้น สั้น เรียบแน่น และมีสีขนที่หลากหลาย เช่น สีดำและน้ำตาลไหม สีดำ น้ำตาลแดง และขาว สีดำ น้ำตาลไหม้ และแต้มจุด
บางทีอาจจะพบลวดลายบนขน ของหมาบางตัว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลายจุด แต่ก็อาจพบลวดลายเหล่านี้ได้ด้วยเช่นกัน แต้มขนสีขาว แต้มขนสีน้ำตาลไหม้ แต้มขนสีน้ำตาล แต้มขนสีดำ ปลายหางของหมาพันธุ์นี้ พันธุ์แท้จะมีสีขาวเสมอ อุ้งเท้าทั้งสี่ข้างก็จะมีสีขาวเช่นเดียวกัน ใบหูมีขนนุ่ม และพับลงมาชิดกับหัว ซึ่งจะแตกต่างจากหมาพันธุ์อื่น อย่างเห็นได้ชัดเจน หากต้องการรับเลี้ยงพันธุ์แท้ แนะนำให้มองหาลักษณะเด่นเหล่านี้
ที่มา: ข้อมูลเบื้องต้นของสุนัขพันธุ์บีเกิ้ล [2]
Beagle เรียกได้ว่าเป็นหมาที่ให้ความสำคัญ กับครอบครัวเป็นอย่างมาก มีอุปนิสัยที่น่ารัก และสร้างเสียงหัวเราะให้แก่คนเลี้ยงอยู่ตลอดเวลา เพราะว่าความดื้อและตลกขี้เล่นของพวกมัน แต่ในความน่ารักนั้น ก็มีความซนพลังล้นซ่อนอยู่เช่นเดียวกัน
สำหรับหมาพันธุ์นี้ ก็ไม่ต่างจากหมาพันธุ์อื่น ที่ต้องการได้รับความเอาใจใส่จากเจ้าของ ชอบการเข้าสังคม พบปะผู้คนหลากหลาย ชอบออกไปเที่ยว ได้มองเห็น ได้ยินเสียงใหม่ ๆ และตอบรับกับทุกประสบการณ์ ที่เจ้าของมอบให้
เคล็ดไม่ลับในการฟูมฟัก ของลูกหมาสายพันธุ์ดังกล่าว คือ การให้มันอยู่ท่ามกลาง หมู่เพื่อนสัตว์เลี้ยง รับรองว่าจะสร้างความแฮปปี้ ให้กับพวกมันได้มากกว่า ปล่อยให้มันอยู่ตามลำพังในบ้าน เพราะถ้าปล่อยเอาไว้ ที่สนามหญ้าหลังบ้านเพียงลำพัง มันก็อาจหาวิธีสร้างความสนุก ด้วยการเห่าหอน ขุดดิน หรือพยายามหนีจาก บริเวณนั้นออกมาได้นั่นเอง
สำหรับหมาพันธุ์นี้ มีอีกเรื่องมีขนไม่หนาจนเกินไป จึงทำให้ปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศได้ดี แต่ปัญหาก็มีอยู่ข้อหนึ่ง คือ ขนร่วง ท่านต้องหมั่นแปรงขนให้พวกมันบ่อย สองสามครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อให้มั่นใจว่าขนสะอาด และอยู่ในสภาพที่ดีแล้ว
นอกจากนี้ การมีขนสองชั้นของมัน ขนจึงอาจร่วงหนักมาก ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ อาจต้องแปรงขนให้พวกมันบ่อยขึ้นในช่วงนี้ และไม่จำเป็นต้องอาบน้ำบ่อย เว้นแต่ว่าพวกมันจะเล่นซน จนเนื้อตัวมอมแมม หรือขนเต็มไปด้วยโคลน ส่วนเล็บควรตัดเป็นประจำ ไม่ควรปล่อยให้ยาวมาก
สุดท้าย คือ ควรดูแลทำความสะอาดใบหูทุกสัปดาห์ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะใบหูที่ห้อยลงมา ปิดกั้นการไหลเวียน ของอากาศภายในหู ทำให้เกิดความเสี่ยง ที่จะติดเชื้อที่หูได้ ดังนั้น ท่านควรปรึกษาสัตวแพทย์ เพื่อขอคำแนะนำ หรือวิธีทำความสะอาดใบหูที่ถูกต้อง
หมาบีเกิ้ล เรียกได้ว่าเป็นหนึ่ง เป็นหมาขนาดกลาง ซึ่งในเรื่องของการดูแล ไม่ยุ่งยาก แต่ก็มีโรคที่ต้องระวังเป็นพิเศษ นั่นก็คือโรคทางพันธุกรรมที่ชื่อว่า Musladin-Lueke Syndrome โดยจะส่งผลต่อเนื้อเยื่อ อวัยวะ กระดูก และผิวหนังของพวกมันได้
นอกจากนี้ ด้วยนิสัยกินเก่ง กินเยอะของพวกมัน มีส่วนที่จะอ้วนได้ง่าย เจ้าของควรกำหนด ปริมาณอาหารให้เหมาะสม ส่วนปัญหาสุขภาพอื่นนั้น ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ สำหรับหมาสายพันธุ์นี้ จะมีไฮโปไทรอยด์ โรคลมชัก ข้อสะโพกเสื่อม และโรคสะบ้าเคลื่อน เป็นต้น
สำหรับราคาของหมาสายพันธุ์นี้ ในประเทศไทยก็จะมีการขายเริ่มต้นที่ 3,000-15,000 บาท [3] โดยต้องหาซื้อกับฟาร์มที่มีความน่าเชื่อถือ ซึ่งเรามีฟาร์มมาแนะนำ ไม่ว่าจะเป็น ฟาร์มบีเกิ้ลพระราม 2, ฟาร์มบีเกิ้ลน้องนุ๊ก, Ch.chokkittifarm Ayutthaya Kennel, จาว่า บีเกิ้ล Javabeagle Kennel และ พี่เสือฟาร์ม [3]
และหากใครที่สนใจจริงๆ แล้วละก็ ทุกคนสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติม จากเพจจัดจำหน่ายลูกสุนัขพันธุ์แท้หลายสายพันธุ์ ยกตัวอย่างเช่น
หมาบีเกิ้ล เรียกได้ว่าเป็นสุนัข ที่มีขนาดปานกลาง และเฉลียวฉลาด ลักษณะโดดเด่นของมัน คือหูพับลงมาชิดกับหัว และดวงตากลมโต ที่พร้อมจะละลายใจทุกท่าน ที่เผลอมาสบตา ถึงแม้พวกมันจะมีขนสั้น แต่มีขนร่วงบ่อย เจ้าของจึงควรใส่ใจดูแล และกรูมมิ่งเป็นประจำ