แมวปันตานัล มีรูปร่างที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมีความโดดเด่นทางสายพันธุ์ มีขนาดตัวใหญ่กว่าแมวบ้าน เป็นแมวที่ไม่อนุญาต ให้นำไปเลี้ยง ส่วนหนึ่งเพราะมันยังมีสัญชาตญาณ ของแมวป่า ที่อาจจะเกิดอันตรายต่อมนุษย์ได้
แมวปันตานัล มีถิ่นกำเนิด มาจากอเมริกาใต้ พบได้ในพุ่มไม้เตี้ย ทุ่งหญ้า ป่าผลัดใบ และทุ่งหญ้าสะวันนา ได้รับการยอมรับ ว่าเป็นสายพันธุ์ ที่สมบูรณ์ในปี ค.ศ. 2020 โดยเกิดจากการพิจารณา ในเรื่องระบบนิเวศ จำนวนประชากร สัณฐานวิทยา ลักษณะทางภูมิศาสตร์ และโมเลกุล [1]
ปันตานัลเป็น แมวป่าต่างประเทศ ที่มีอายุขัยประมาณ 10 – 15 ปี [2] มีหน้าตาเป็นเอกลักษณ์ หูสั้น หัวกว้าง รูปร่างกะทัดรัด มีความคล่องตัว ในการทำกิจกรรมต่างๆ เช่น เดินป่า ล่าสัตว์ ปีนเขา โดยรวมแล้ว ร่างกายมีความแข็งแกร่ง กล้ามเนื้อแข็งแรง ลักษณะเด่นมีดังนี้
จุดสังเกต
ที่มา: Pantanal Cat [3]
ปันตานัลเป็นแมวป่า ที่ออกล่าสัตว์ และหากินในตอนกลางคืน เพราะในช่วงกลางคืน จะมีสัตว์เล็กที่พักผ่อน ความมืดช่วยให้การล่าสัตว์ของมัน อยู่ในเชิงได้เปรียบ และหลบหลีกสัตว์ ที่ใหญ่กว่าได้ดี มันจะอาศัยประสาทสัมผัส ในการสะกดรอยตามเหยื่อ เช่น สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม นก และสัตว์ฟันแทะ เป็นต้น
ปันตานัลเป็นสัตว์ ที่ขึ้นชื่อในเรื่อง การจำกัดอาณาเขต มันจะทำเครื่องหมาย ในเขตของตนเอง ด้วยกลิ่นอย่างชัดเจน บริเวณที่อยู่อาศัยของมัน จะมีความชัดเจน ในช่วงฤดูผสมพันธุ์ แม้ว่าจะเป็นสัตว์ ที่ชอบอยู่อย่างโดดเดี่ยว แต่ในช่วงนี้ จะเกิดการปฏิสัมพันธ์ทางสังคม
เมื่อการสืบพันธุ์ ของปันตานัลจบลง แมวเพศเมียที่ปฏิสนธิสำเร็จ จะใช้เวลาในการตั้งครรภ์ ประมาณ 2 – 3 เดือน และให้กำเนิดลูก ครอกละ 2 – 3 ตัว การดูแลแม่แมวช่วงนี้ เป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งลูกแมวจะฝึกทักษะ ในการเอาตัวรอด และพัฒนาการทักษะจากแม่แมว
ปันตานัล แมวป่าที่พบได้น้อยลง และมีถิ่นกำเนิด เพียงแค่แหล่งเดียว จึงมีความจำเป็น ที่จะต้องช่วยกันอนุรักษ์ไว้ ให้คงอยู่ไปจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน ถือเป็นส่วนหนึ่ง ของสัตว์ป่า ที่ช่วยให้ธรรมชาติ มีสีสันและสวยงามมากขึ้น
การเลี้ยงปันตานัล เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก ในปัจจุบัน เนื่องจากทางรัฐบาล ต้องการคงไว้ให้เป็นสัตว์ป่า จากสัญชาตญาณที่ยาก ต่อการนำไปใช้เป็นสัตว์เลี้ยง ถูกอนุรักษ์และป้องกัน จากภัยคุกคามหลายอย่าง ที่เกิดขึ้น รวมถึงเรื่องราวอื่น ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
1. ด้านอาหารและที่อยู่
การเกิดของปันตานัลนั้น เป็นเรื่องที่ควบคุมได้ยาก ซึ่งปัจจัยหนึ่ง ที่ทำให้มันมีจำนวนที่ลดลง ส่วนหนึ่งมาจากการถูกคุกคาม ทางด้านที่อยู่อาศัย เช่น การขยายพื้นที่ ในการปลูกพืชทางการเกษตร รวมถึงเรื่องความขัดแย้งจากมนุษย์ และแหล่งอาหารที่น้อยลง
2. แนวโน้มการขยายพันธุ์
เรื่องการขยายพันธุ์ ของปันตานัลยังคงได้รับความสนใจ และนักวิทยาศาสตร์ ต่างทำงานเพื่อรวบรวข้อมูล เพื่อป้องกันการสูญพันธุ์ และให้มันได้ใช้ชีวิตให้อยู่รอด แม้ว่าในปัจจุบัน จะมีข้อมูลที่น้อย แต่ในอนาคต จะมีการเก็บรวบรวมข้อมูลให้มากขึ้น
3. การแก้ไขปัญหา
ปัญหาระหว่างแมวปันตานัล และมนุษย์ที่มีความขัดแย้งต่อกัน กำลังได้รับการแก้ปัญหา โดยสร้างความตระหนัก และพูดถึงความสำคัญ ของแมวต่อระบบนิเวศ และตั้งพื้นที่คุ้มครอง ส่งเสริมแนวทางปฏิบัติ สู่การแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืน
ปันตานัลไม่มีการกำหนด ราคาที่แน่ชัด และไม่ได้รับอนุญาต ให้จำหน่ายทั้งในประเทศต้นทาง และการส่งออก เนื่องจากมันเป็นสัตว์สงวน ที่กำลังถูกคุ้มครอง อย่างเคร่งครัด จึงยากที่จะนำมาเลี้ยง เป็นเหมือนแมวบ้านได้ ซึ่งสาเหตุเกิดจากการถูกล่า จึงทำให้มันมีจำนวนน้อยลง
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีแมวป่า ที่ลักษณะคล้ายกัน ให้ผู้ที่หลงใหลในแมวป่า ได้เลือกซื้ออีกหลายสายพันธุ์ เช่น แมวบอบแคต แมวออเซลอท และแมวชอฟรัว ที่สั่งจองได้จาก ส่งสัตว์เลี้ยงระหว่างประเทศ เว็บไซต์ที่นำเข้าสัตว์เลี้ยงจากต่างประเทศ
แมวปันตานัล แมวที่มีรูปร่างน่ารัก เป็นส่วนหนึ่ง ที่ทำให้ระบบนิเวศ เกิดความสมดุล แม้ได้รับการยอมรับ อย่างเป็นทางการไม่นาน แต่ก็เป็นที่รู้จัก ในกลุ่มนายพราน ปัจจุบันไม่พบแหล่งซื้อขาย จากการนำไปผสมพันธุ์เอง