Gunfire Reborn เป็นวิดีโอเกมแนว ยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่ง ประเภทโร้คไลค์ปี 2021 ที่พัฒนาโดย Duoyi Games ซึ่งเป็นสตูดิโอของชาวจีน ที่มีลักษณะเด่นคือ รูปลักษณ์แบบ Cel shaded ที่เกมนี้ ได้แรงบันดาลใจมาจาก เกม Borderlands และ Enter the Gungeon ที่การออกแบบนั้น จะเป็นแบบเกมโร้คไลค์ ที่เข้าถึงแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย สำหรับเรื่องราว การเล่น และสิ่งที่น่าสนใจของเกมนี้ จะมีอะไรอีกบ้างนั้น ตามข้อมูลต่อจากนี้
การเริ่มต้นของเกมนี้ จะไม่มีการเล่าถึงเนื้อเรื่อง แต่จะเป็นการเข้าสู่บทช่วยสอน ที่ตัวเกมจะมีคำแนะนำต่าง ๆ ให้กับผู้เล่น ซึ่งจะมีการอธิบายเกี่ยวกับ การควบคุม การยิง การทำงานของปืน และทักษะเฉพาะต่าง ๆ รวมไปถึงการสอนต่อสู้กับศัตรู และวิธีการใช้ประโยชน์ จากจุดอ่อนของศัตรู ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยบทช่วยสอนนี้ จะจบลงก็ต่อเมื่อ ผู้เล่นได้ออกจากด่าน Longling Tomb หรือด่านแรกของเกมนี้นั่นเอง
ส่วนเรื่องของรูปแบบการเล่นในเกมนี้ ก็จะให้ผู้เล่นต่อสู้ใน 3 ด่านหลัก โดยแต่ละด่านในเกม ก็จะประกอบไปด้วย 6 พื้นที่ โดยแต่ละพื้นที่ หรือแต่ละด่านนั้น จะมีธีมประเภทศัตรู และบอสที่ต่างกันออกไป และมีลักษณะเฉพาะเป็นของตัวเอง และนอกจากนี้ ผู้เล่นยังต้อง Unlock ตัวละคร และปืนต่าง ๆ ภายในเกมนี้ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง แถมอาวุธแต่ละชิ้นในเกมนี้ ยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอีกด้วย [1]
โหมดการเล่นของเกมนี้ มีทั้งแบบผู้เล่นคนเดียว และแบบที่สามารถ Co – Op ร่วมกันได้ถึง 4 คน โดยผู้เล่นก็จะปลดล็อกโหมดผู้เล่นหลายคนได้เมื่อเลเวลถึง 10 ซึ่งเมื่อถึงตามกำหนดแล้ว ผู้เล่นจะสามารถเข้าร่วมล็อบบี้จับคู่แบบ Co – Op ได้ทันที ซึ่งโหมดนี้ ถือว่าเป็นโหมดการเล่น ที่ดีที่สุดแล้ว เพราะการเล่นคนเดียวในเกมนี้ จะเป็นเรื่องที่ยาก และน่าเบื่อ เพราะหลังจากต้องเผชิญหน้ากับศัตรู และบอสเพียงลำพัง ผู้เล่นจะต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง ซึ่งมันจะต่างแบบร่วมมือ ที่แป๊ปเดียวก็ช่วยกันผ่านด่านนั้น ๆ ได้แล้ว
ในส่วนของภาพกราฟิกของเกมนี้ ต้องบอกเลยว่า เป็นสไตล์ Cel shaded แบบที่เรียบง่ายมาก ๆ แต่การออกแบบรูปลักษณ์ ทั้งอาวุธ ตัวละคร และศัตรูที่บอกเลยว่า อาจจะดูเรียบง่าย แต่แปลกใหม่ และไม่เคยเจอจากเกมอื่น ๆ อย่างแน่นอน ซึ่งหากพูดโดยรวมแล้ว ภาพกราฟิกของเกมนี้ ถึงจะเรียบง่าย แต่ก็มีความแปลกใหม่ และต่างจากเกมยิง ที่นำเสนอมุมมองบุคคลที่หนึ่งอย่างแน่นอน
ส่วนเรื่องของเสียงภายในเกมนั้น เพลงในเมนูหลักนั้นดี แต่ก็ไม่มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษ ส่วนเรื่องของเสียง Effect ต่าง ๆ ก็ทำให้ผู้เล่นนั้น รู้สึกเพลิดเพลินได้เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งเสียงเพลง และเสียง Effect ต่าง ๆ ในเกมนี้ ผู้เล่นจะได้ยินเป็นเสียงเดิม ๆ ที่ได้ยินจนชินหู แต่หากจะให้ฟังนาน ๆ ก็คงจะน่าเบื่อ เพราะมันเป็นเสียงเพลง และเสียง Effect ซ้ำ ๆ
จุดเด่นหลักของเกมนี้ ก็คือเรื่องของรูปแบบการเล่น ที่จะเป็นรูปแบบ เกมยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่ง ประเภท Roguelike ที่ไม่ได้ผลิตเกมแนวนี้ ออกมามากมายนัก ซึ่งมันทำให้แกมนี้ ดูแปลกใหม่ และมีความโดดเด่น มาก ๆ ซึ่งบอกได้เลยว่า ทั้งรูปแบบภาพที่สวยงาม ตัวละคร และปืนแปลก ๆ อีกมากมายในเกมนี้ ที่จะทำให้ผู้เล่นมากมายนั้น เกิดความสนใจ แถม การเผชิญหน้ากับบอสสุดโหดในเกมนี้ จะมอบความตื่นเต้น และเร้าใจ ให้กับผู้เล่นได้อย่างแน่นอน [2]
ข้อเสียในเกมนี้ จะเป็นเรื่องของ ปัญหาในการหาของ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วัตถุดิบที่ใช้ในการ Upgrade ในเกมนี้ บอกเลยว่าหายากมาก ซึ่งมันจะทำให้ผู้เล่นนั้น ต้องเล่นด่านเดิมซ้ำ ๆ หลายรอบ เพื่อที่จะได้นำของ Upgrade ที่หามาได้นั้น ไปพัฒนาให้กับตัวละคร อาวุธ และสิ่งของต่าง ๆ ให้มีความแข็งแกร่งขึ้น แต่ก็อย่างว่า ของที่ใช้ Upgrade นั้น ไม่ได้หากันง่ายเลย ซึ่งผู้เล่นอาจจะต้องใช้เวลาอย่างมาก และอาจทำให้ผู้เล่นเบื่อไปก่อน ที่จะหาของ Upgrade จนครบ
วันที่เปิดให้บริการเกมนี้ จะมีเพียงช่วงเดียว คือตั้งแต่วันที่ 18 พฤศจิกายน 2564 ที่ตัวเกมได้เปิดให้บริการ โดยแพลตฟอร์มที่ตัวเกมนี้ ได้นำไปจำหน่ายนั้น บอกเลยว่ามีมากมาย ซึ่งก็มีทั้ง IOS, Android, Xbox One, Xbox Series X/S, PS4, PS5, Switch และ Windows ที่มีการจำหน่ายผ่าน App Steam ส่วนเรื่องของราคาเกมนั้น ก็แล้วแต่แพลตฟอร์มนั้น ๆ ได้นำไปวางจำหน่าย โดยราคาเริ่มต้นของเกมนี้ จะอยู่ที่ประมาณ 399 บาทเท่านั้น [3]
GunfireReborn โดยรวมแล้วเกมนี้ เป็นเกมที่มีเนื้อเรื่องไม่มากนัก แต่ก็ไม่ได้แย่อะไร ซึ่งก็อาจจะน่าเบื่อไปสักหน่อย สำหรับช่วงแรก ๆ ของการเริ่มต้นเล่นเกมนี้ ส่วนเรื่องของกลไกอาวุธ และกลไกอื่น ๆ นั้น สามารถทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว แต่ก็อย่างที่บอกไป ในเรื่องของข้อเสีย ผู้เล่นก็จะได้พบกับ การฝ่าฟันด่านซ้ำ ๆ เพื่อหาของมา Upgrade สิ่งต่าง ๆ แต่หากมองข้ามเรื่องนี้ได้ ตัวเกมถือว่าสนุกสนานใช้ได้เลย สำหรับใครที่สนใจ ก็ไปลองหามาเล่นกันได้ ตัวเกมราคาไม่ได้แพงมากนัก แถมเหมาะกับทุกเพศทุกวัยอีกด้วย