รีวิว Torchlight เกมเนื้อเรื่อง แนวบุกตะลุยดันเจี้ยน

Torchlight

Torchlight เป็นเกมแนว Action สวมบทบาทที่เน้นการ บุกตะลุยดันเจี้ยนพัฒนาโดย Runic Games และจัดจำหน่ายโดย Perfect World Entertainment โดยเกมดังกล่าว จะมีฉากอยู่ในเมืองสมมุติ ที่มีชื่อเหมือนตัวเกม โดยจะมีถ้ำ และดันเจี้ยนอันกว้างใหญ่มากมาย ที่จะให้ผู้เล่นได้ออกไปผจญภัย และออกสำรวจสิ่งต่าง ๆ เพื่อรวบรวมของมีค่าและต่อสู้กับฝูงมอนสเตอร์ สำหรับรายละเอียด และสิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ จะมีอะไรบ้างนั้น ตามข้อมูลต่อจากนี้

พล็อตเรื่องของเกม และการเล่นเบื้องต้น

พล็อตเรื่องของเกม Torchlight จะมีการเล่าถึง แร่ลึกลับที่เรียกว่า Ember ซึ่งแร่นี้ จะมีพลังในการเติมพลังเวทมนตร์ให้กับผู้คน และสิ่งของต่างๆ ภายในเมือง แถมยังถูกสร้างขึ้นเหนือแหล่งแร่ Ember ที่อุดมสมบูรณ์อีกด้วย แต่หลังจากนั้นได้ไม่นาน พวกเขากลับค้นพบว่า Ember มีอิทธิพลที่เสื่อมลงไป ซึ่งนำไปสู่การล่มสลาย และเป็นอันตรายต่อผู้ใช้อย่างมาก จึงทำให้ผู้เล่นต้องกอบกู้เมืองเอาไว้ให้ได้

สำหรับรูปแบบการเล่นของเกมนี้ ก็จะเล่นตามเนื้อเรื่องหลัก โดยผู้เล่นจะได้รับบทเป็นผู้กล้า ที่การเล่นจะเป็นแบบ Hack/Slash และต้องเลือกตัวละคร 1 ใน 3 ที่ตัวเกมมีให้ ซึ่งหลังจากที่เลือกเสร็จ ผู้เล่นจะได้เริ่มการผจญภัย และสนุกไปกับการทำเควสต่าง ๆ แถมยังมีการเพิ่มความสามารถของตัวละคร การตามหาของวิเศษ และการต่อสู้ที่ดุเดือดกับศัตรูที่มีปริมาณมหาศาลอีกด้วย [1]

แนะนำคลาสตัวละครทั้ง 3 ที่มีให้เลือก

คลาสของตัวละครในเกม Torchlight จะมีการแบ่งออกเป็น 3 คลาสด้วยกัน โดยแต่ละคลาสนั้น รูปแบบการเล่น และความสามารถจะต่างกันออกไป โดยข้อมูลของทั้ง 3 คลาสในเกม ก็จะมีดังต่อไปนี้

  • Destroyer คือนักรบพเนจรที่เชี่ยวชาญใน การต่อสู้ ระยะประชิด มีความสามารถในการเรียกวิญญาณบรรพบุรุษ
  • นักเล่นแร่แปรธาตุ เป็นผู้ร่ายเวทมนตร์ ที่ถูกดึงดูดด้วยพลังเวทย์มนตร์ของเอ็มเบอร์ เขาสามารถปล่อยพลังเวทมนตร์ และไฟฟ้าจากถุงมือพิเศษของเขาได้ แถมยังเรียกปีศาจ และหุ่นยนต์สไตล์สตีมพังก์ออกมาได้อีกด้วย
  • Vanquisher ผู้พิทักษ์เมืองชั้นยอด ถูกส่งตัวไปสืบหาความจริงในเมือง เธอมีความเชี่ยวชาญด้านอาวุธระยะไกล และสามารถใช้กับดักเพื่อจัดการกับศัตรู

ภาพกราฟิก และเสียงเกมที่นำเสนอ

รูปแบบภาพกราฟิกในเกมนี้ มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาก ๆ ซึ่งถือได้ว่าค่อนข้างสวยงามมาก ในยุคสมัยนั้น แถมยังมีการออกแบบตัวละคร และศัตรู ที่หลากหลายเอามาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบอย่างสวยงามจนน่าตกใจ ไปจนถึงรูปแบบที่ไร้สาระอย่างน่าขัน และนอกจากนี้ ฉาก และมุมมองภายในเกม ยังชวนให้นึกถึงเกมดังอย่าง Diablo อีกด้วย

ส่วนเรื่องของเสียงภายในเกม นักแต่งเพลง และนักออกแบบเสียง ของเกม Diablo ก็ได้มาเข้าร่วมทีมด้วย โดยการสร้างดนตรี และเสียงต้นฉบับสำหรับเกมนี้ ได้เรียบเรียงดนตรีตามจังหวะ และบริบทของการเล่นเกมได้อย่างเข้ากันสุด ๆ ซึ่งมันช่วยให้การเล่นของเกมนี้ มีความเพลิดเพลินมากขึ้นด้วย

จุดเด่นของเกม Torchlight คือเรื่องอะไร

Torchlight

สัตว์เลี้ยงถือเป็นจุดเด่นมาก ๆ ในเกม Torchlight เพราะสัตว์เลี้ยงของผู้เล่น สามารถแปลงร่างเป็นสัตว์ประหลาดได้ด้วย แถมยังสามารถสวมชุดอุปกรณ์เสริม เก็บไอเทมพิเศษ ขนของกลับไปขาย แถมยังสามารถใช้เพื่อต่อสู้เคียงข้างผู้เล่นได้อีกด้วย ซึ่งมันก็เหมือนระบบตัวช่วย ที่จะช่วยผู้เล่นทำสิ่งต่าง ๆ

และนอกจากนี้ อีกหนึ่งจุดเด่นที่สำคัญเลย ก็คือการตกปลาทุกชนิด เพราะการตกปลาในเกมนี้ ไม่ใช่ได้แค่เพียงปลา แต่มีไอเทมพิเศษ ที่สุ่มช่วยให้ผู้เล่นสามารถ Upgrad อัปเกรดอุปกรณ์สำคัญ แถมยังมีการสุ่มบัฟอีกด้วย ซึ่งมันเป็นอะไรที่เพลินมาก นอกจากการเล่นตามเนื้อเรื่อง [2]

ข้อเสียที่พบในเกมนี้ มีเรื่องอะไรบ้าง

ข้อเสียของเกมนี้ คือไม่ใช่ เกมออนไลน์ ที่จะให้ได้ร่วมเล่นกับคนอื่น ๆ และความเก่าของเกมที่ได้เปิดให้บริการมานานมากแล้ว ซึ่งทำให้เรื่องของการพัฒนาเกมนี้ ไม่มีอะไรใหม่ ๆ ให้ผู้เล่นทำเลย เพราะทางผู้พัฒนาก็ได้ไปพัฒนาภาคใหม่ ๆ มากกว่า ซึ่งปัจจุบันตัวเกมนี้ เป็นได้แค่เพียงเกมสวมบทบาท แนว Action ที่มีเนื้อเรื่องตามมาตรฐาน ที่มีให้บริการทั่วไปเหมือนกับเกมเนื้อเรื่องเก่า ๆ ทั่วไป

วันที่ปล่อยตัวเกม ของแต่ละแพลตฟอร์ม

วันที่ปล่อยเกมนี้ จะมีอยู่ 4 ช่วง 4 แพลตฟอร์ม โดยครั้งแรกนั้น ได้ปล่อยให้กับแพลตฟอร์ม Windows เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2552 และช่วงที่ 2 ก็ได้เปิดให้กับแพลตฟอร์ม OS X ในวันที่ 12 พฤษภาคม 2553 ช่วงที่ 3 คือปล่อยให้กับ Xbox 360 เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2554 ส่วนช่วงสุดท้ายที่ได้ปล่อยนั้น ได้ปล่อยให้กับ Linux เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2555 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสุดท้าย ที่สามารถเข้าถึงเกมนี้ได้ [3]

สรุป Torchlight

Torchlight โดยรวมก็คือ เกมตะลุยดันเจี้ยน ที่มอบความสดใส มากกว่าความมืดมน โดยผู้เล่นจะได้เล่นเนื้อหาทั้งหมดของเกม ประมาณ 10 – 15 ชั่วโมง หรืออาจมากกว่านั้น ซึ่งก็ถือได้ว่า เป็นเกมเนื้อเรื่องเก่า ที่ยังคงมีความน่าสนใจ และยังน่าเล่น แต่อย่างว่า หากเล่นจนจบเนื้อเรื่องแล้ว ตัวเกมก็จะไม่มีอะไรให้ทำแล้ว นอกเสียจากไปเริ่มต้นใหม่ กับภาคใหม่เท่านั้น

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน
Picture of PRO Game Master
PRO Game Master

แหล่งอ้างอิง