รีวิว Xenoverse 2 เกมภาคต่อ จากอนิเมะ Dragon Ball

Xenoverse 2

Xenoverse 2 เป็นเกมต่อสู้แนว Action สวมบทบาท ที่คล้ายกับเกมอย่าง Soul Worker แต่เกมนี้ พัฒนาโดย Dimps และเผยแพร่โดย Bandai Namco Entertainmentโดยอิงจาก แฟรนไชส์ Dragon Ballและเป็นภาคต่อของเกม Dragon Ball Xenoverse ในปี 2015 เกมนี้มีความคล้ายคลึงกับเกมภาคก่อน ๆ มาก ในแง่ของรูปแบบการเล่น ที่จะมีการจำลองมาจาก สถานที่สำคัญต่าง ๆ ใน จักรวาล Dragon Ball สำหรับรายละเอียด และสิ่งที่น่าสนใจของภาคนี้ จะมีอะไรบ้างนั้น ตามข้อมูลต่อจากนี้

การเริ่มต้น และรูปแบบการเล่นของภาคนี้

การเริ่มต้นของเกมนี้ ผู้เล่นจะรับบทบาทเป็นผู้ตรวจตรากาลเวลา ภายใต้การชี้นำของ Supreme Kai แห่งกาลเวลา ผู้เล่นจะผจญภัยไปตลอดช่วงเวลาอันยาวนานของ Dragon Ball Z และป้องกันไม่ให้เกิดสิ่งผิดปกติ และเมื่อมีผู้บุกรุกราน เข้ามาแทรกแซงเหตุการณ์สำคัญ จึงทำให้ประวัติศาสตร์เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นผู้เล่นจึงต้องเดินทางข้ามเวลา เพื่อแก้ไขให้ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ

ส่วนเรื่องของรูปแบบการเล่น ตัวเกมยังคงใช้รูปแบบการเล่นที่ยังคงเดิม ซึ่งเหมือนกับภาคแรก แต่สิ่งที่ต่างออกไปในภาคนี้ ผู้เล่นจะสามารถสร้างตัวละครขึ้นมาใหม่ได้ทั้งหมด แถมยังมีเผ่าให้เลือก 5 เผ่า ซึ่งประกอบไปด้วย มนุษย์, ชาวไซย่า, ชาวนาแม็ค เผ่าจอมมารบู และเผ่าฟรีชเซอร์ โดยแต่ละเผ่า ก็จะมีความสามารถ ที่ต่างกันออกไปอีกด้วย [1]

ตัวเกมในภาคนี้ มีอะไรเพิ่มเข้ามาบ้าง

หลังจากที่รู้การเริ่มต้น และรูปแบบการเล่นของเกมนี้ไปแล้ว ภายในหัวข้อนี้ เรามาดูกันว่า ตัวเกมในภาคที่สองนี้ ได้มีการเพิ่มอะไรเข้ามาใหม่บ้าง ซึ่งก็ได้แก่

  • เมือง Conton City เมืองใหม่ที่เพิ่มเข้ามาภายในเกม ใช้เป็นสถานที่พบปะระหว่างผู้เล่น และเป็นสถานที่รับเควส, ฝึกฝนตัวละคร และค้นหาไอเทมต่าง ๆ ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าเมืองจากภาคก่อนหน้านี้ถึง 7 เท่า
  • ตัวละครใหม่ คือ มาจิน เบจิต้า หรือร่างของเบจิต้า ที่ถูกพ่อมดบาบิดี้ควบคุมจิตใจ ที่มีสัญลักษณ์ตัว M อยู่ตรงหน้าผาก ซึ่งตัวละครนี้ จะแข็งแกร่งกว่าปกติ
  • โหมดใหม่ Expert Mission จะเป็นโหมด Multiplayer ที่ให้ผู้เล่น 6 คน ช่วยเหลือกัน เพื่อต่อสู้กับบอส NPC หรือ AI ที่มีขนาดใหญ่ยักษ์
  • เควสมากกว่าเดิม สำหรับโหมด Single – Player ในภาคนี้ จะมีจำนวนเควสมากกว่าภาคที่ 1 เท่าตัว แถมยังมีเควสจากภาคก่อนหน้าด้วย แถมยังมีระบบไว้ค้นหาไอเทมหายาก เพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับตัวละครอีกด้วย

ภาพกราฟิกภายในเกมภาคที่ 2 เป็นอย่างไร

ในส่วนของภาพกราฟิกของภาคนี้ ยังคงให้ความรู้สึกเหมือนกับภาคแรก ที่เป็นแบบเซลเฉด Full 3D แต่ก็ได้มีการปรับปรุงมาบ้างเล็กน้อย ทำให้สามารถรีดประสิทธิภาพ ของกราฟิกออกมาได้อย่างเต็มที่ ซึ่งรับรองว่า ภาพสวยงามเหมือนกับในการ์ตูนเลยทีเดียว แถมยังมี Effect ที่คมชัดกว่าภาคแรก ทำให้รู้สึกว่า การใช้สกิลต่าง ๆ ให้ความอลังการกว่าภาคแรกแน่นอน

จุดเด่นของเกม Xenoverse 2 คือเรื่องอะไร

Xenoverse 2

จุดเด่นของเกมนี้ คือเรื่องของการ การเล่นออนไลน์ ที่แทบจะไม่มีความล่าช้าเลย หากไม่มีปัญหาเกี่ยวกับ Internet แต่ก็พบปัญหากระตุกบ้างเป็นครั้งคราว เมื่อเล่นกับต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดามาก ๆ สำหรับเกมแนวนี้ ที่เล่นออนไลน์ ผ่านคนละเซิร์ฟเวอร์

และอย่างที่บอกไป การสร้างตัวละครในเกมนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นเช่นกัน เพราะผู้เล่นสามารถสร้างตัวละคร ที่มีเอกลักษณ์ได้ด้วยตนเอง ซึ่งจะสร้างให้มีเอกลักษณ์ยังไงก็ได้ แต่จะต้องเลือกตามเผ่าพันธุ์ทั้ง 5 เผ่า ที่ตัวเกมมีมาให้เท่านั้น ส่วนการต่อสู้ก็ทำได้เหมือนกับในอนิเมะเลย ไม่ว่าจะเป็น ต่อย บิน ปล่อยพลัง และแปลงร่าง [2]

ข้อเสียที่ทำให้เกมนี้ดูแย่ คือส่วนไหน

ปัญหาเดียวของตัวเกมในภาคนี้ คือรูปแบบการเล่นหลัก ที่อาจจะไม่ค่อยพัฒนา ซึ่งทำให้รูปแบบการเล่น และการต่อสู้ในเกมนี้ จะเหมือนเดิมตลอด ซึ่งแรก ๆ จะเป็นอะไรที่สนุก แต่พอนาน ๆ ไป จะให้ความรู้สึกเบื่อหน่ายกับการเล่นแบบเดิม ๆ ที่มีเพียงแค่การต่อสู้เท่านั้น

และนอกจากนี้ พื้นฐาน และเนื้อหามากมาย ที่ต้องฝึกฝนภายในเกม การเริ่มเล่นเกมนี้ครั้งแรก ในฐานะผู้เล่นใหม่ อาจจะเป็นเรื่องยาก และจุกจิกเกินไปมาก เมื่อเทียบกับมาตรฐาน ของเกมแนวเดียวกัน ที่เปิดให้บริการในปัจจุบันนี้ และอาจจะไม่คุ้มกับราคาที่ซื้อมาอีกด้วย

วันที่วางจำหน่าย และแพลตฟอร์มที่รองรับ

วันที่วางจำหน่ายเกมนี้ครั้งแรกนั้น ได้วางจำหน่ายไป เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2559 โดยมีการปล่อยให้กับ PlayStation 4 และ Nintendo Switch ให้ได้เล่นกันก่อน และหลังจากนั้น ก็ได้มีการปล่อยให้กับ แพลตฟอร์มที่หลากหลาย ซึ่งก็ได้แก่ Xbox One, Windows, Stadia, PlayStation 5 และ Xbox Series X/S ที่เรียกได้ว่า เข้าถึงง่าย และทั้งหมดนี้ เป็นแพลตฟอร์มยอดนิยม ที่คนทั่วโลกนิยมใช้เล่นเกมออนไลน์กันทั้งนั้น [3]

สรุป Xenoverse 2

Xenoverse 2 โดยรวมถือว่าเป็นเกมต่อสู้ จากอนิเมะเรื่อง Dragonball ที่ทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม บนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่นำมาเปิดให้บริการ เพราะทุกแพลตฟอร์มสามารถเล่น และรองรับตัวเกมได้แบบลื่น ๆ สำหรับใครที่สนใจเกมนี้ อาจจะต้องคิดสักหน่อย กับรูปแบบการเล่น และราคาของเกมที่ขาย ว่าคุ้มหรือไม่ เพราะราคาก็ค่อนข้างแพงเลย โดยอิงจาก Steam มีการตั้งราคาเกมนี้ไว้ที่ 590 บาท แต่หากใครที่เป็นแฟนอนิเมะ จะซื้อมาเก็บไว้เล่นเพลิน ๆ ก็ได้

Facebook
Twitter
Telegram
LinkedIn
ข้อมูลผู้เขียน
Picture of PRO Game Master
PRO Game Master

แหล่งอ้างอิง